เรียกได้ว่าต้องจารึกไว้หน้าประวัติศาสตร์ การเมืองและการทหารของเมืองไทย ว่าครั้งหนึ่ง กลุ่มนายทหาร “3 ป.” ที่เติบโตมาจากรั้วทหาร จากรุ่นสู่รุ่น ผ่านเก้าอี้ ผบ.ทบ. มาด้วยกัน ก่อนจะเข้าสู่การรัฐประหารปี 2557 ด้วยภาพลักษณ์ “ทหาร” ที่เข้ามาจัดการความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ก่อนที่จะกลายสภาพสู่ภาพลักษณ์ “นักการเมือง” ในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน “3 ป.” ที่ประกอบด้วย “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “พี่คนกลาง” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ “น้องเล็ก” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงวันต้องแยกกันเดินคนละทาง ซึ่งกว่าจะถึงวันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง
จุดเริ่มต้นอำนาจ 3 ป.
จุดเริ่มต้นเส้นทางอำนาจของ “พี่น้อง 3 ป.” ในสนามการเมืองไทย คงจะเริ่มนับตั้งแต่การทำการรัฐประหาร รัฐบาลรักษาการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย “บิ๊กตู่” กับภาพลักษณ์ “ทหาร” ที่เข้ามาจัดการความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
โดยหลังจากการทำการรัฐประหาร ได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี คณะที่ 61 ขึ้น ประกอบด้วย รัฐมนตรี รวม 33 คน โดยมี “บิ๊กตู่” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามพระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 24 ส.ค. 2557 ซึ่งในคณะรัฐมนตรีชุดดังกล่าว มี “บิ๊กป้อม” ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ “บิ๊กป๊อก” ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวถูกเรียกว่า “รัฐบาล คสช.” เนื่องจากเป็นรัฐบาลภายใต้ช่วงเวลาที่ คสช. ยังมีอำนาจอยู่ ท่ามกลางเสียงเพลงดังกระหึ่มที่แต่งโดยบิ๊กตู่ “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผงาด ก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมือง ในฐานะนักการเมืองเต็มตัว ในเวลาต่อมา