นับเป็นมวยคู่เดือด “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัวหมัดน็อคเข้าใส่ “รังสิมันต์ โรม” แห่งพรรคก้าวไกลที่คอยให้ท้ายสาวกขบวนการ 3 นิ้ว “เปลวสีเงิน” สื่ออาวุโสคอลัมนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ถึงกับยกนิ้วให้เป็นมวยคู่เดือดแซ่บเวอร์ สมกับเป็นวัน “วาเลนไทน์” จริงๆ
เริ่มตั้งแต่ระฆังดังเป๊ง “สส.รังสิมันต์ โรม” แห่งพรรคก้าวไกล อภิปรายพาดพิง “รัฐมนตรีชาดา” นำภาพ ศปปส.ถ่ายรูปคู่ “รัฐมนตรีชาดา” มาประกอบการอภิปราย เมื่อศิษย์เอก “ศาสดาบูด” หรือ ที่ใครรู้ดีว่า คือ “ปิยบุตร แสงกนกุล” ผู้นำจิตวิญญาณแห่งคณะก้าวหน้า พูดจบ “รัฐมนตรีชาดา” รัดหมัดชุดเข้าใส่ ลุกขึ้นกระทอกกลับทันที สภาร้อนฉ่า เป็นเตาเกาหลีปิ้งย่าง ไฟโชน
“ ญัตตินี้เป็นเรื่องของการอารักขาขบวนเสด็จฯ ที่ทำร้ายจิตใจประชาชน แต่กำลังเอาเรื่องนอกประเด็นผลของการกระทำ เด็กหรือใครก็ตามกี่ครั้งแล้วที่ทำผิดกฎหมาย การแสดงออกด้วยหัวใจคนไทย ไม่มีปัญหา แต่มันมีขบวนการในประเทศนี้ ที่จะล้มล้าง ที่จะบั่นทอน อย่าพูดว่าไม่มี ถ้าทำกับผมแบบนี้ พูดกับผมแบบนี้ เดี๋ยวผมจะพูดให้หมด ยืนยันว่าวันนี้ ไม่ได้อยากจะพูด แต่หัวใจความรักชาติมันเต็มเปี่ยม สิ่งที่ท่านทำ ไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ ปากบอกว่าพัฒนา แต่สิ่งที่ทำเมื่อสักครู่นี้เลวทรามมากในความรู้สึกผม ซึ่งประธานสภาฯ ปล่อยภาพนี้ออกมาได้อย่างไร ใครอนุญาต ผมไม่ว่าสมาชิก แต่ขอถามประธาน การอภิปรายอยู่ดีๆ สร้างปัญหาเอง อย่าพูดว่าไม่มีขบวนการล้มเจ้า ยืนยันว่ามี ซึ่งผมพร้อมจะถ่ายรูปกับคนทุกคนที่ปกป้องสถาบัน แต่เขาจะเอาไปทำอะไร ผมไม่รู้ ผมไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง ต้องมีสามัญสำนึกในการกระทำ อย่ามาพูดดูดี แต่ปฏิบัติไม่ดี
ช่วงต่อมา “พรรคก้าวไกล” อยากจะกรี๊ด เมื่อ “รัฐมนตรีชาดา” ลุกขึ้นอภิปรายเป็น เอพพิโสด 2 ว่า
“4 ปีที่ผ่านมา มีผู้อยู่เบื้องหลัง “มอบเงินให้เด็ก” และบางทีมี “ต่างชาติ” ไปทำเรื่องประกันตัวที่โรงพัก กดดัน ต่างๆ มากมาย ผมเห็นว่าไม่ได้เกิดจากการกระทำของเด็ก และไม่ใช่พื้นที่ที่จะทำให้เกิดสันติภาพหรือการพูดคุยที่ชัดเจน ในฐานะคนไทย ก็เจ็บปวดพอสมควร เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการปะทุครั้งหนึ่งของคนไทย ส่วนหนึ่งจึงเป็นที่มาของญัตติในวันนี้ สิ่งสำคัญ คือ มันมีเบื้องหลัง มีเงินสนบสนุน ผมไม่อยากจะพูด จากบางคน หรือจากกลุ่ม มันทำให้ปัญหาไม่จบสิ้น ประเทศไทยอยู่มาได้ ไม่เคยมีปัญหาเหล่านี้ จะเกิดจากอะไร ผมก็ไม่สามารถรู้ได้ สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เกิดในชีวิตจิตใจของคนไทยทั้งชาติ แต่เป็นความรู้สึกของคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามจะเข้ามาข้องเกี่ยวและสร้างความเสื่อมให้กับสถาบัน ถ้าจะเอาพื้นที่พูดคุย ต้องด้วยความต้องการของคนไทย เป็นความรู้สึก แต่นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นความรู้สึกของคนที่เข้าใจคำว่า “ประมุขของประเทศ”
ตนมี ข้อมูลอยู่ในมือนี้ ถ้าใครอยากดู แต่เรียนด้วยความเคารพว่า ผมไม่อยากสร้างความขัดแย้ง แต่ท่านเริ่มก่อน และสิ่งที่ผมพูดมีหลักฐาน แต่ยังจับไม่ได้ ถ้าถึงเวลาเขาดำเนินคดีแน่นอน ถ้าถามว่าใคร ถ้าอยากจะรู้ เดี๋ยวจะตอบให้ว่า “เป็นผู้ช่วย สส.” ท่านใด ที่ส่งเงินให้ขบวนการพวกนี้ ผมบอกว่า อย่าเอาผมเข้าไปสู่องค์ประกอบให้มันครบ คนอย่างผม ถ้าไม่ใช่ความจริง ไม่พูด และสิ่งสำคัญ มันอยู่ระหว่างที่เขารวบรวมหลักฐาน แต่ผมกล้าพูดว่ามันเป็นเรื่องจริง ไม่ต้องห่วง ความจริงมันต้องเปิดออกมาแน่นอน ถ้าท่านจะใช้กลไกทางสภา ก็ดี เพียงแต่ว่า วันนี้จะทำเพื่ออะไร และอยากรู้อะไร ข้อมูลมันเป็นเอกสารของทางราชการ ความจริงย่อมเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ
พร้อมกันนั้่น “รัฐมนตรีชาดา” ก็ชูเอกสารให้ดูเป็นการเรียกน้ำย่อย! นี่พูดกันตรงๆ นะ ในสังคม “หัวเต่า” ทุกวันนี้
โดยเฉพาะกับเรื่องคุกคามหยามหมิ่นสถาบันในรูปแบบ “กัดกร่อนบ่อนเซาะ” ถ้า “รัฐมนตรีชาดา” ถือว่า “ธุระไม่ใช่” เพียงรักชาติ พิทักษ์สถาบันอยู่ในใจ เหมือนผู้ใหญ่จอมปลอมอีกหลายๆ คน ที่ไม่กล้าขยับเขยื้อนตัว ด้วยกลัว “ทัวร์ส้ม” ลง ละก็ สถาบันต้องถูก “ส้ม-สามนิ้ว” ตามกระชับพื้นที่ถี่ขึ้นและหนักขึ้นแน่นอน
ยามนี้ มีแต่ “รัฐมนตรีชาดา” แห่งพรรภูมิใจไทยคนเดียวเท่านั้น เป็นหนุมานในดงยักษ์ ประกาศตัวรบ ทั้งในสภา-นอกสภา ผู้คนที่ได้แต่ “อัดอั้น-ตันใจ” เมื่อมีผู้กล้าออกนำ บรรดาผู้ตามก็พร้อม วันนี้สังคมไทย คนเก่ง ไม่ต้องการแล้ว เพราะมีล้นจนประเทศทรุด ต้องการ “คนกล้า-คนจริง” ที่จับคอเสื้อเขย่าได้ทั้งในสภา-นอกสภา อย่าง “รัฐมนตรีชาดา” มากกว่า เก่งประเภท เห่าอาศัยสภาคุ้มกะลาหัว ถีบทิ้งซะมั่ง
ทิ้งท้าย “เปลวสีเงิน” ชื่นชม “จังหวัดอุทัยธานี” เป็นเมือง “พระปฐมบรมราชชนกแห่งราชวงศ์จักรี” สมแล้วที่ “รัฐมนตรีชาดา” เป็นคนอุทัยธานีและคนอุทัยเลือกให้เข้าไปทำหน้าที่แทนในสภา
#เปลวสีเงินเปลวสีเงิน #หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ #ชาดา ไทยเศรษฐ์ #ภูมิใจไทย #รังสิมันต์ โรม #ก้าวไกล
/-/-/