"ยื่นภาษี" ออนไลน์ ปี 2567 ขอ คืนภาษี ได้เงินเร็วสุดภายในกี่วัน เปิดวิธีเช็กสถานะด่วน ๆ พร้อมช่องทางรับคืนเงิน สรุปครบจบที่นี่
ข่าวที่น่าสนใจ
หลังการ “ยื่นภาษี” สำหรับผู้ที่มีสิทธิจะได้เงินภาษีคืน จะต้องถูกหักภาษีเกินกว่าที่ต้องจ่าย ที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายไปล่วงหน้า เมื่อคำนวณภาษีเรียบร้อยแล้ว สามารถยื่นขอเงินภาษีคืนได้ โดยมีรายละเอียด และช่องทางการติดตามสถานะ คืนภาษี ดังนี้
เช็กสถานะคืนเงินภาษี
- เข้าเว็บไซต์กรมสรรพากร : คลิกที่นี่
- เลือกเมนู My Tax Account ตรวจสอบข้อมูลทางภาษี
- กรอกข้อมูลเพื่อเข้าระบบ ใส่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขบัตรประจำตัวประชาชน) และรหัสผ่านเดียวกันกับระบบ e-Filing และใส่เลข Laser ID หลังบัตรประชาชน จากนั้นกด “เข้าสู่ระบบ”
- หน้าจอจะปรากฏให้ยืนยันตัวตน ระบบจะส่งรหัส OTP พร้อมรหัสอ้างอิงไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบบได้ให้ไว้ กรอกเลขรหัสที่ได้รับภายในเวลา 5 นาที
- ติดตามสถานะและส่งเอกสาร
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบสถานะคืนเงินภาษีได้อีก 2 ช่องทาง ได้แก่
- ศูนย์บริการข้อมูลสรรพากร (RD Call Center) : 1161
- สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตามภูมิลำเนาที่ปรากฏตามการยื่นแบบ
เคล็ดลับได้เงิน คืนภาษี เร็วขึ้น
สิ่งสำคัญเวลา “ยื่นภาษี” คือ ความถูกต้องครบถ้วนของเอกสาร และ ช่องทางการรับเงินคืนภาษี และนี่คือสิ่งต้องตรวจสอบและเตรียมพร้อม ได้แก่
- เอกสารหลักฐาน ยืนยันตัวเลขรายรับ รายจ่าย ค่าลดหย่อนต่าง ๆ หากยื่นเอกสารไม่ครบถ้วน ตามตัวเลขที่แจ้งไว้ ทางสรรพกรก็อาจขอเรียกดูเอกสารเพิ่มเติม และใช้เวลานานขึ้นกว่าที่ได้รับคืนเงินภาษี เอกสารที่ควรเตรียมพร้อมทุกครั้งที่ยื่นภาษีมีดังนี้
- หนังสือรับรองเงินเดือน
- การหักภาษี ณ ที่จ่าย (ใบทวิ 50)
- ข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับค่าลดหย่อน
- อัปโหลดเอกสารเพิ่มเติมบนเว็บไซต์กรมสรรพากร เมื่อมียอดภาษีที่ถูกหักไว้มากกว่าจำนวนภาษีที่คำนวณได้ จะต้องมีนำส่งเอกสารให้สรรพากรเพิ่มเติม
- เข้าไปที่ระบบ E-Refund แล้วคลิกที่ “นำส่งเอกสารประกอบพิจารณาการคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” แล้วอัปโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องเข้าไป
- การอัปโหลดเอกสารต้องเป็นไฟล์ที่สามารถ Upload ได้ จะต้องเป็นนามสกุล JPG, BMP, PNG, TIFF, PDF ที่ขนาดไม่เกิน 3 MB และขนาดของไฟล์รวมกันแต่ละครั้งไม่เกิน 20 MB สามารถนำส่งได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- ข้อควรระวัง ระบบไม่รองรับไฟล์ PDF ที่มี Password
- รับผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน หากผู้เสียภาษีผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคาร (บัตรประชาชน) และหากผ่านการพิจารณา คืนภาษี กรมสรรพากรก็จะโอนเงินภาษีนั้นคืนใน 3 – 5 วันทำการ
- หากไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ไว้ ทางสรรพากรจะออกหนังสือแจ้งคืนเงินภาษี (ค.21) ส่งทางไปรษณีย์ สำหรับเป็นหลักฐานเพื่อนำไปติดต่อรับเงินคืนได้ที่ธนาคารกรุงไทย (KTB) หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใช้เวลาประมาณ 15 วัน
- กรณีที่ยื่นขอคืนเงินภาษีไปแล้ว แต่พบว่ายอดคืนภาษีไม่ตรงกับยอดที่ยื่นไปที่ควรจะได้รับ และไม่เห็นด้วย สามารถอุทธรณ์ต่อกรมสรรพากรได้
ช่องทางขอเงิน คืนภาษี
- บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวบัตรประชาชน 13 หลัก
- บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ผู้ขอคืนที่ไม่สามารถลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก กรมสรรพากรจะออกหนังสือ ค.21 (หนังสือแจ้งคืนเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา) พร้อมเช็ค โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ตามที่อยู่บนแบบแสดงรายการให้ผู้ขอคืน เพื่อนำไปเข้าบัญชีเงินฝากที่สาขาธนาคารเท่านั้น
ระยะเวลาขอรับเงิน คืนภาษี
- นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เผยถึงกรณีการขอ คืนภาษี จะสามารถได้รับเงินคืนเร็วสุดกี่วัน จะขึ้นอยู่กับเกณฑ์ความเสี่ยงของผู้ยื่น หากไม่พบปัญหา จะได้คืนภาษีภายใน 3 – 4 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง