“รมช.อนุชา” นำทีมเกษตรกรไทยลุยอุดรธานี ศึกษาต้นแบบ Agri-Map เดินหน้าขยายพื้นที่ ต่อยอดความสำเร็จ

"รมช.อนุชา" นำทีมเกษตรกรไทย ลุยอุดรธานี ศึกษาต้นแบบ Agri-Map เดินหน้าขยายพื้นที่ ต่อยอดความสำเร็จ

วันที่ 17 ก.พ.67 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อตรวจเยี่ยมความสำเร็จแปลงต้นแบบในการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสม ด้วยการทำเกษตรผสมผสานและปศุสัตว์ ณ แปลงเกษตรของนายวิชาญ นามอาษา บ้านวังแสง ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี และแปลงเกษตรของนายวีระชาติ อ่อนนอ บ้านสะอาดนามูล ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี โดยมีผู้นำชุมชนจากจังหวัดชัยนาท เกษตรกร และหมอดินอาสา จำนวน 300 คน เข้าร่วมศึกษาดูงานในครั้งนี้เพื่อนำความรู้ไปปรับใช้ในพื้นที่แปลงเกษตรของตนเอง

 

รมช.อนุชา ลงพื้นที่

 

นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาล โดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการพื้นที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในพื้นที่ปลูกข้าวและพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ให้เกิดการปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่กิจกรรมการผลิตที่มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน เช่น การทำปศุสัตว์การปลูกพืชอาหารสัตว์ การทำเกษตรผสมผสาน การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด หรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด ซึ่งจะเห็นได้ว่าแปลงต้นแบบของเกษตรกรทั้ง 2 ราย มีการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสม ด้วยการทำเกษตรผสมผสานและปศุสัตว์ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากเดิมที่ทำนาเพียงอย่างเดียว ทั้งนึ้ พี่น้องเกษตรกรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง เพื่อเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ต่อยอดสู่ความร่ำรวย จะทำให้หลุดพ้นจากความยากจนได้ ถือเป็นการขับเคลื่อนการทำงานโครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาภาคเกษตรกรรม และยกระดับรายได้ของพี่น้องเกษตรกร โดยยึดตามหลัก “การเลี้ยงโคคณิตศาสตร์” ที่ทำให้เกิดการเพิ่มรายได้ทุกปี แค่เกี่ยวหญ้าเป็นก็ได้จับเงินแสนเงินล้านและปลดหนี้ได้ นำไปสู่การสร้างรายได้ที่สมดุล จนถึงการมีอาชีพที่มั่นคง จะเป็นอีกหนึ่งหนทางอาชีพที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืนต่อไป

 

รมช.อนุชา

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านนายวิชาญ นามอาษา เปิดเผยว่า ตนมองว่าการทำนาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะมีรายได้เพียงพอ จึงเข้าร่วมโครงการพัฒนาที่ดินเพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสม (Agri-map) ในการปลูกข้าวเป็นเกษตรแบบผสมผสาน ของกรมพัฒนาที่ดิน โดยได้ทำการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนา 15 ไร่ มาเป็นการปลูกข้าว 5 ไร่ ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ 5 ไร่ พืชผักผลไม้ 3 ไร่ คอกสัตว์และแหล่งน้ำ 2 ไร่ ส่งผลทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว มีรายได้ตลอดปี 14,940 บาท แต่หลังปรับเปลี่ยนกิจกรรมมีรายได้ตลอดปี 148,700 บาท และยังมีการเลี้ยงวัวกว่า 50 ตัว ทำให้มีรายได้จากการขายวัว และขายมูลวัวอีกด้วย ทำให้ปัจจุบัน กลายเป็นเกษตรกรต้นแบบของการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากการทำเกษตรกรรมเชิงเดี่ยวมาเป็นเกษตรผสมผสาน ให้กับเกษตรกรในพื้นที่อื่น ๆ ได้มาศึกษาเรียนรู้

 

"รมช.อนุชา" นำทีมเกษตรกรไทย ลุยอุดรธานี

 

ขณะที่นายวีระชาติ อ่อนนอ เปิดเผยว่า ได้ลาออกจากโรงงานอุตสาหกรรม แล้วกลับมาประกอบอาชีพทำเกษตร และเลี้ยงวัว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาไปเป็นแรงงานประเทศเกาหลี และกลับมาทำเกษตรโดยมีพื้นที่ 93 ไร่ และเข้าร่วมโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ของสถานีพัฒนาที่ดินอุดรธานี กรมพัฒนาที่ดิน ขนาด 1,260 ลูกบาศก์เมตร เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ และได้ทำการปรับเปลี่ยนพื้นที่โดยแบ่งเป็น ปลูกข้าว 5 ไร่ ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ 60 ไร่ โรงเรือนเลี้ยงวัวและโรงเก็บหญ้าแห้งฟางแห้ง 1 ไร่ พื้นที่เลี้ยงวัว 12 ไร่ แหล่งน้ำ 5 ไร่ พืชผักสวนครัว 2 ไร่ ที่อยู่อาศัย 1 ไร่ และพื้นที่อื่นๆ 7 ไร่ ซึ่งหลังปรับเปลี่ยนกิจกรรมมีรายได้ตลอดปีรวม 131,484 บาท อีกทั้ง มีการเลี้ยงวัวกว่า 50 ตัว ทำให้ปัจจุบัน กลายเป็นเกษตรกรต้นแบบของการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากการทำเกษตรกรรมเชิงเดี่ยวมาปลูกหญ้า เลี้ยงสัตว์ และเป็นศูนย์เครือข่ายสัตว์พันธุ์ดีกรมปศุสัตว์ (เครือข่ายใช้ประโยชน์พันธุกรรมและเทคโนโลยี) ทำให้มีรายได้ตลอดปีและยังเป็นต้นแบบในการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกทางหนึ่งด้วย

 

"รมช.อนุชา" นำทีมเกษตรกรไทย ลุยอุดรธานี

 

ลุยอุดรธานี

สำหรับพื้นที่ ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ได้ดำเนินโครงการพัฒนาที่ดินเพื่อการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมตาม Agri-map ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 – 2566 รวมพื้นที่ 570 ไร่ เกษตรกรที่เข้าร่วม 52 ราย และเป็นเกษตรกรที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าวเป็นการปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ ในปี 2565 จำนวน 7 ราย โดยการปรับระดับพื้นที่ขุดร่องน้ำแบบยกคันดิน ทำให้มีการกักเก็บน้ำและใช้ประโยชน์บนคันดินได้ ทั้งนี้ กรมพัฒนาที่ดิน มีแผนขยายโครงการในปี 2567 โดยจะขยายพื้นที่ในตำบลห้วยสามพาด 200 ไร่ และตำบลนาม่วง 200 ไร่ ต่อไป

 

"รมช.อนุชา"

 

"รมช.อนุชา" นำทีมเกษตรกรไทย ลุยอุดรธานี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนุ่มขับกระบะตู้ทึบ เข้าชี้แจงตร. ไม่ใช่แก๊งลักเด็ก แค่หยอกเล่น พร้อมเตรียมขอโทษครอบครัวเด็ก
อธิบดีกรมโยธาฯ ร่วมดีเอสไอ เปิดตู้คอนเทนเนอร์ สอบเอกสารคุมงานสร้าง "ตึกสตง." มั่นใจภายใน 90 วัน ได้ข้อสรุปสาเหตุพังถล่ม
เครือซีพีร้อยเรียงความดี ส่งต่อพลังใจ! พนักงานร่วมบริจาคเครื่องเป่าลม สนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
MEA แจ้งปิดทำการ เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2568
สปส. รับรางวัล องค์กรส่งเสริมการจ้างงานและการมีรายได้สำหรับผู้สูงอายุประจำปี 2568 เชิดชูหน่วยงานรัฐให้ความสำคัญผู้สูงวัย
สวิงฝาแฝด 2 คู่เข้าป้ายแชมป์และรองแชมป์ สนาม 4 เจจีทีซี จูเนียร์ ที่สนามเลควูด
กทม. เปิดอบรมฟรี ! ชวนร้านอาหารร่วมจัดการไขมันอย่างถูกวิธี รวมพลังหยุดน้ำท่วมกรุงเทพฯ ตั้งแต่หน้าร้าน
นาทีท่าเรืออิหร่านบึ้ม พนง.ออฟฟิศกระเด็น-ยอดเหยื่อพุ่งแตะ 40
เกาหลีเหนือยืนยันครั้งแรกส่งทหารช่วยรัสเซีย
อิสราเอลถล่มโกดังมิสไซล์ฮิซบอลเลาะห์ในกรุงเบรุต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น