แกนนำคปท.ชี้ภาพ”ทักษิณ” ออกรพ.กลับจันทร์ส่องหล้า ย้ำขัดไม่ป่วยหนักจริง

แกนนำคปท.ชี้ภาพ"ทักษิณ" ออกรพ.กลับจันทร์ส่องหล้า ย้ำขัดไม่ป่วยหนักจริง

แกนนำคปท.ชี้ภาพ “ทักษิณ”  ออกรพ.กลับจันทร์ส่องหล้า ย้ำขัดไม่ป่วยหนักจริง  Top News รายงาน 

 

ทักษิณ

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

หลังจากเมื่อเวลา 04.44 น. รถยนต์ส่วนตัวของแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บุตรสาวคนเล็กของทักษิณ ชินวัตร เดินออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางไปโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นการเดินทางไปรับทักษิณ ในโอกาสจะได้พักโทษภายใต้เงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม

 

 

ทั้งนี้สื่อมวลชนได้เปิดเผยภาพนายทักษิณ ก่อนเดินทางออกมาจากที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นภาพนายทักษิณภายในรถตู้ สวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวลายตาราง สวมแมสก์สีเขียว พร้อมดามเฝือกอ่อนที่บริเวณคอ โดยมีนางสาวแพทองธาร และพินทองทาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) กองทัพธรรม และศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้เดินทางมาปักหลักชุมนุมแสดงพลังคัดค้านการพักโทษ นายทักษิณ ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันพื้นที่ให้ชุมนุมอยู่บนฟุตปาทถนนพระรามที่ 1 ไม่ให้เข้ามาโรงพยาบาลนั้น

 

โดยเมื่อถึงช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ทางกลุ่มมวลชนได้มีการติดตามมอนิเตอร์เหตุการณ์ผ่านสื่อมวลชนที่ปักหลักรายงานสดใน รพ.ตำรวจ เมื่อทราบว่ามีรถของญาติเตรียมมารับตัวกลับ จึงไปยืนรอริมถนนพระรามที่ 1 เตรียมแสดงสัญลักษณ์หากรถนายทักษิณ ผ่านออกมา แต่สุดท้ายเมื่อทราบว่าขบวนรถออกไปทางถนนอังรีดูนังต์ แกนนำจึงแจ้งให้มวลชนรับทราบ ซึ่งบางคนมีท่าทีผิดหวัง แล้วจึงเก็บข้าวของกลับไปชุมนุมต่อที่สะพานชมัยมรุเชฐ

 

ขณะที่นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ที่มารอนายทักษิณ เพื่อต้องการสื่อสารให้สังคมทราบว่า ยังมีคนที่ไม่เห็นด้วย และคัดค้านการพักโทษของนายทักษิณ ภาพที่ปรากฏวันนี้คือการที่ นายทักษิณ สามารถเดินทางกลับด้วยรถส่วนตัวโดยมีญาติมารับ สะท้อนว่าที่ผ่านมา นายทักษิณ ไม่ได้ป่วยหนักจริง ทั้งมีสุขภาพแข็งแรงดี สิ่งที่ คปท.พูดนั้นถูกมาตลอด และสิ่งที่ นายทักษิณ สื่อสารออกมาว่าป่วยหนักเป็นการโกหกสังคม

 

 

 

 

 

“หลังจากนี้ คปท. จะยังคงปักหลักชุมนุมที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐต่อ ยังไม่มีกำหนดเลิก เพราะยังมีประเด็นที่ต้องติดตาม ทั้งกรณีนายทักษิณ เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งจะต้องไปเร่งรัดให้ทางอัยการดำเนินการส่งฟ้อง รวมทั้งติดตามคดีที่เคยไปร้องให้ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการกับข้าราชการที่สนับสนุนให้นายทักษิณ ไม่ต้องเข้าเรือนจำ ยืนยันว่าไม่รู้สึกผิดหวังกับเคลื่อนไหว ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยซ้ำที่ทำให้ประชาชนสนใจติดตามเรื่องนี้”

 

 

 

เชื่อว่าจากนี้สถานการณ์การเมืองในประเทศจะวนกลับมาเป็นระบอบทักษิณอีกครั้งหนึ่ง นายทักษิณ จะกลับมามีอิทธิพลเหนือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะต้องเป็นนายกฯ ขาลอย และทำให้การตรวจสอบอำนาจรัฐกระทำได้ยากขึ้น จะมีการอ้างว่านายทักษิณ ไม่ได้มีตำแหน่งในรัฐบาล เกิดการเป็นผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ การตรวจสอบจะยากขึ้น แต่เชื่อว่าจะต้องมีการทิ้งร่องรอยไว้ให้ประชาชนได้ทราบ คปท. จะร่วมตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แต่อาจใช้วิธีการอื่นที่ไม่ใช่รูปแบบการชุมนุม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น