logo

“บิ๊กต่อ” สั่งขันน็อตถวายความปลอดภัยสกัดแก๊งป่วน “ขบวนเสด็จฯ”

"บิ๊กต่อ" สั่งขันน็อตแนวทางถวายความปลอดภัยสกัดแก๊งป่วน "ขบวนเสด็จฯ" ย้ำการจราจรต้องไม่กระทบกับประชาชน

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือ “บิ๊กต่อ” ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. เปิดเผยระหว่างเป็นประธานการประชุมบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีข้อสั่งการในการประชุม 6 เรื่อง ได้แก่ 1. การถวายความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร : ให้ทุกหน่วยกำชับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และอำนวยความสะดวกการจราจร ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบฯ และ แนวทางที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงหลักด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทั้งนี้ จะต้องไม่กระทบกับประชาชนของพระองค์ท่าน , ให้ทำการศึกษาถอดบทเรียน และสร้างมาตรฐานในการถวายความปลอดภัย รวมทั้งประชาสัมพันธ์แนวทางการใช้รถใช้ถนนร่วมกับขบวนเสด็จฯ ให้ประชาชนทราบและปฏิบัติได้อย่างถูกต้องปลอดภัย

2. การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย : ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สืบสวนหาข่าวการนัดหมายจัดกิจกรรม การจัดการชุมนุม หรือการแสดงออกทางการเมือง ประเมินสถานการณ์ และพิจารณาจัดกำลังดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัยอย่างเหมาะสม อย่าให้เกิดการกระทบกระทั่ง , กรณีพบการกระทำผิดกฎหมาย ให้รวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียดรอบคอบ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เหมาะสมกับสถานการณ์

3. การปราบปรามยาเสพติด : ปัจจุบันพบการจำหน่ายน้ำกระท่อม หรือการจำหน่ายแปรรูปช่อดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก ให้ประสานกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง กวดขันปราบปรามอย่างจริงจัง , เพิ่มความเข้มในการปราบปรามยาเสพติด ทั้งการสกัดกั้น การลักลอบนำเข้า-ส่งออก การปราบปรามเพื่อทำลายโครงสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้ค้า การใช้มาตรการทางกฎหมาย ตัดวงจรการเงินและยึดทรัพย์ และดำเนินการโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อบำบัดรักษา และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

4. การรับทหารกองประจำการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน : ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุมัติเปิดรับสมัครและคัดเลือกทหารกองหนุนที่เคยรับราชการในกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) จำนวน 500 อัตรา บรรจุและแต่งตั้งเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ และเมื่อสำเร็จการฝึกอบรมจะแต่งตั้งลงในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนนั้น ให้กองบัญชาการศึกษา , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , สำนักงานกำลังพล , สำนักงบประมาณ , สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และโรงพยาบาลตำรวจ เร่งรัดดำเนินการในรายละเอียดที่ เกี่ยวข้อง เพื่อให้การรับสมัคร การคัดเลือก การบรรจุแต่งตั้งและฝึกอบรม เป็นไปตามแผนและระยะเวลาที่กำหนด

5. การปรับปรุงประสิทธิภาพงานสอบสวน : สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญและอยู่ระหว่างการปรับปรุงงานสอบสวน เช่น การแก้ไขคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556, การลดขั้นตอนทางธุรการฯ , การวิเคราะห์และกำหนดตำแหน่งควบเพื่อเป็นเส้นทางการเจริญเติบโต, การพิจารณาเสนอขอปรับปรุงอัตราเงินเพิ่มพิเศษ เป็นต้น ระหว่างนี้ เพื่อเป็นการช่วยลดภาระและสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานสอบสวน ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1-9 , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำรวจปริมาณงานของพนักงานสอบสวนแต่ละ สน./สภ. และ กกง เพื่อปรับเกลี่ยพนักงานสอบสวนให้เหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณงาน โดยรายงานผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบภายในวันที่ 29 ก.พ.67 ส่วนกรณีคดีสำคัญหรือคดีที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค หรือกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พิจารณามอบหมายพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวน ร่วมดำเนินการสอบสวน , ให้ผู้กำกับการ/หัวหน้าสถานี หัวหน้างาน สอบสวนด้วยตนเอง หรือจัดให้มีระบบพี่เลี้ยง ให้คำปรึกษา แนะนำ แก้ไขปัญหาให้พนักงานสอบสวนที่ปฏิบัติหน้าที่ใน สน./สภ. และ กก.

6. การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ : สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หาแหล่งเงินกู้ในอัตราพิเศษเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจ เพื่อนำไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินเดิมซึ่งมีดอกเบี้ยสูง ซึ่งจะทำให้ข้าราชการตำรวจมีเงินเหลือหลังการผ่อนชำระหนี้จำนวนมากขึ้น โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่ง ตร. ที่ 19/2567 ลง 11 ม.ค.67 แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการจัดหาเงินกู้ในอัตราพิเศษ เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจ จึงให้คณะทำงานฯ เร่งหารือกับสถาบันการเงิน และกำหนดแนวทางเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นของขวัญให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัว ให้สามารถดำรงชีพได้ อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี

 

#บิ๊กต่อ #ขบวนเสด็จฯ #ถวายความปลอดภัย #สตช. #ผบ.ตร.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พกร่มด่วนๆ อุตุฯ เตือน 43 จว. เตรียมรับมือฝนถล่มหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.เจอฝน 60%
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่อยุธยาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัยน้ำท่วม
"โสภณ" ลั่น ร่าง พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ต้องปฏิวัติการศึกษา เท่าเทียม ทั่วถึง ทันยุค
ครม.นัดพิเศษ แต่งตั้ง "หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์" นั่งเลขาธิการนายกฯ
ตามรวบ "สาวแสบมิจฉาชีพออนไลน์" ส่งลิ้งลวงเหยื่อ ขอคืนเงินค่า FT ก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี เสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
ททท.จัดต่อเนื่อง "Amazing Muay Thai Experiences" ตอกย้ำเสริมเสน่ห์ไทยด้วยกีฬา "มวยไทย" ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสประสบการณ์ถึงถิ่นกำเนิดมวยดี 4 สาย
จนท.บุกตรวจ "แรงงานต่างด้าว" 149 คน แอบเช่าบ้าน 2 หลังในชุมชนขอนแก่น เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
"วรชัย" วอน "เสรีพิศุทธ์" อย่าตั้งเป้าโจมตี ขอโอกาสรัฐบาลทำงาน ให้เวลาพิสูจน์แก้ปัญหาปชช.
“อ.ธรณ์” ห่วง “ฮาลองเบย์” สถานที่สวยงาม ถูกพายุไต้ฝุ่น "ยางิ" พัดถล่ม หวังให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย
ไร้ปาฏิหาริย์ พบแล้ว "นทท.เบลเยี่ยม" หลังหายตัวลึกลับ ทีมค้นหาพบร่าง บริเวณท้ายฝาย "น้ำตกแม่เย็น"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น