“บิ๊กโจ๊ก” ยันบริสุทธิ์ไม่ได้มีเอี่ยวแก๊งเว็บพนันเครือข่าย “มินนี่”

“บิ๊กโจ๊ก” ยันบริสุทธิ์ไม่ได้มีเอี่ยวแก๊งเว็บพนันเครือข่าย "มินนี่" ยันถูกใส่ความโดนดิสเครดิตพร้อมสู้คดีจนถึงที่สุด

ภาพหลังมีกระแสข่าวกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. จะออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” หรือ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าให้ปากคำในฐานะพยานในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ในคดีเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ นั้น

ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้มีการปูพื้นมาจากเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ และมีการโยงเส้นทางการเงินมายังลูกน้องของตนเองทั้ง 8 คน และสำนวนคดีมีการสั่งฟ้องไปยังอัยการแล้ว เมื่อสั่งฟ้องอัยการไปแล้ว ตำรวจจะหมดอำนาจทันทีในการสอบสวน ถ้ามีการสอบสวนเพิ่มเติมจะต้องมีคำสั่งจากอัยการเท่านั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันด้วยว่า ส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ เนื่องจากตนเองไม่ได้ให้คุณให้โทษกับเว็บพนันฯ และไม่ได้กำกับดูแลตำรวจไซเบอร์ ถึงแม้จะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำกับดูแลงานด้านความมั่นคงก็ตาม ส่วนกรณีพบเส้นทางการเงินของตนเองโอนไปยังลูกน้องนั้น ยืนยันว่า เป็นเงินที่ตนเองให้ไปทำงาน ไม่ใช่เงินที่มาจากเว็บพนัน แต่สาเหตุที่ตนเองต้องตกเป็นเป้าหมายนั้น เชื่อว่า สังคมรู้ดีว่าเป็นการดิสเครดิตตนเอง ซึ่งจะเป็นเรื่องไหนนั้น ตนเองไม่ขอพูด และเชื่อว่า จะมีการแต่งบทละครใส่ร้ายตนเองให้เสียชื่อเสียง จนกว่าคดีนี้จะยุติลง

ส่วนหมายเรียกของ สอท. ที่ระบุว่า ให้ตนเองไปให้การในฐานะพยานนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานแต่อย่างใด ส่วนจะเดินทางไปหรือไม่นั้น ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจอะไร และต้องเป็นคำสั่งของอัยการเท่านั้น ตนเองถึงจะเดินทางไป เพราะสำนวนคดีนี้อยู่กับอัยการ และส่วนหนึ่งอยู่ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า คดีนี้ตนเองรู้สึกสงสารลูกน้อง และพนักงานสอบสวนบางคนที่ถูกเรียกมาเซ็นชื่อ แต่ไม่ได้ทำสำนวน ขอเตือนว่าพอถึงเวลาปัญหาเกิดขึ้นจะต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีนายอยู่เคียงข้าง ท่านจะเสียใจไปทั้งชีวิต เพราะตนเองเจอมาหมดแล้ว / พร้อมเตือนสื่อมวลชนที่แชร์ข่าวตนเองให้ได้รับความเสียหายว่า ให้พึงระวัง หากข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตนเองจะใช้กฎหมายดำเนินการ

ส่วนกรณีอัยการถูก 1 ใน 8 ลูกน้องของตนเองไปคุกคาม สะกดรอยตามนั้น จากการสอบถามลูกน้องยืนยันว่า ไม่ได้กระทำการลักษณะดังกล่าว และหลังจากเป็นกระแส ก็ได้ยื่นเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค4 ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า ไปคุกคาม ได้มีการมาปรึกษาก่อนยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนเองเพิ่งรู้หลังจากที่ยื่นหนังสือไปแล้ว เพราะถ้าทราบก่อน จะไม่ให้ยื่นเด็ดขาด เพราะมองว่า ไม่จำเป็น

อีกทั้งกรณีของ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ถูก 1 ใน ชุดพนักงานสอบสวนของ สอท. โทรศัพท์เข้ามา เพื่อให้กลับคำให้การ ทำให้ตนเองและพวกเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า มีการติดต่อมาจริง เป็นพนักงานสอบสวน ยศนายพัน ซึ่งวันพรุ่งนี้ลูกน้องของตนเองจะยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่า พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวเข้าข่ายผิด ม.157 หรือไม่

#บิ๊กโจ๊ก #เว็ปพนัน #มินนี่ #สตช.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทัพเรือจีน-ไทย เปิดฉาก 'ซ้อมรบร่วม' ปี 2025
“พิชัย” กำชับ “พาณิชย์” คุมเข้มราคาสินค้า ลุยจัดโครงการลดค่าครองชีพทั่วประเทศ
ฉก.ราชมนู หนุนปฏิบัติการ ส่งชาวจีน-แอฟริกาใต้ เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลับประเทศต้นทาง
เครื่องบินเจ็ตชนกันกลางอากาศที่ฝรั่งเศส
กัมพูชารวบชาวไทย 63 คนในปอยเปตเตรียมก่ออาชญากรรมออนไลน์
ไฟป่าเกาหลีใต้ยังโหมหนักล่าสุดดับแล้วกว่า 20 คน
"ชวน หลีกภัย" ไม่วิจารณ์คำชี้แจงนายกฯ บอกต้องไปถามพ่อ กรีด "ทักษิณ"ทำผิดหนีคดี ไม่มีใครแกล้ง
"บิ๊กเต่า" แถลงผลปฏิบัติการ "สยบนาคี" จับแก๊งทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบพิรุธ 7 ปี สั่งจ่ายยา 84.7 ล้าน
“มาดามแป้ง” สุดภูมิใจ กู้วิกฤติศรัทธาฟุตบอลไทย ยืนยันรอจ่ายหนี้สยามสปอร์ต ค่อยดำเนินคดี “บิ๊กอ๊อด”
เรื่องใหญ่! “อ.ปานเทพ-เพจดัง” จับพิรุธ “รูปแตงโม” คอสุดเกร็ง-ถมดำจนโป๊ะ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น