ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียร่วงแรงสุดในรอบ 26 ปี จากตัวเลขการส่งออกที่ย่ำแย่ และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น
ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียแตะระดับต่ำสุดเมื่อวานนี้ ในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร โดยร่วงลงเกือบ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ที่ 4.8 ริงกิตต่อ 1 ดอลลาร์ นับเป็นการอ่อนค่ามากที่สุด นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2541 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ในเอเชีย ริงกิตได้อ่อนค่าลงมากกกว่า 4 เปอร์เซ็นต์แล้วในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่ย่ำแย่ และอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น
ดาโต๊ะ อับดุล ราชีด กัฟฟูร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เงินริงกิตได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งระดับเงินริงกิตในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนถึงแนวโน้มเชิงบวกของเศรษฐกิจมาเลเซียในอนาคต แต่คาดว่าการค้าโลก และการส่งออกของมาเลเซีย ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลเชิงบวกต่อค่าเงินในปีนี้
อีกปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ รวมถึงเงินริงกิตอ่อนค่า เนื่องจากนักลงทุนเคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังสหรัฐ ที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง แต่นาย อามีร์ ฮัมซาห์ อาซิซาน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนที่สองของมาเลเซีย กล่าวกับสำนักข่าวเบอร์นามาของรัฐเมื่อวันจันทร์ว่า เขาคาดว่าค่าเงินจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่ทางการสหรัฐ ส่งสัญญาณยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกเหนือจากนั้น การทำงานหนักทั้งหมดที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ทำ เพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ก็จะมีส่วนในการทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ซึ่งเขากล่าวยืนยันว่า ค่าเงินริงกิตจะดีขึ้นอย่างแน่นอน