“อี้ แทนคุณ” ชี้ 3 เหตุผล “ทะลุวัง” จงใจป่วนขบวนเสด็จฯ เชื่อมีคนให้ท้าย เลยไม่เกรงกลัวกม.

"อี้ แทนคุณ" ชี้ 3 เหตุผล "ทะลุวัง" จงใจป่วนขบวนเสด็จฯ เชื่อมีคนให้ท้าย เลยไม่เกรงกลัวกม.

วันที่ 22 ก.พ.67 เวลา 16.00น.ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา พร้อมกับ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยนายแทนคุณ เผยกับผู้สื่อข่าว ท็อปนิวส์ กรณีการป่วนขบวนเสด็จฯว่า การป่วนขบวนเสด็จฯ มีอยู่ 3 ลักษณะ ประกอบด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

  • 1.เจตนา แม้ไม่รู้ว่าใครจะเด็ด แต่รู้ว่ามีขบวนเสด็จฯ แต่คุณเข้าไปป่วนแบบนั้นเท่ากับเป็นเจตนาคุกคาม หากเข้าไปเช็ดตัวพระองค์ท่านเท่ากับมีความอันตรายถึงชีวิต เสมือนคนขับรถมาจี้เรา เรายังกลัว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ
  • 2.วิธีการหลังจากป่วนขบวนเสด็จเสร็จสิ้น ก็ไม่ได้มีการสำนึกตัวอย่างใด ย้อนกลับไปแถลงข่าวที่สยามพารากอนรวมทั้งทำโพลที่ใกล้กับวังสระปทุม ซึ่งเราคิดว่าจะขอโทษในสิ่งที่ทำผิด แต่เป็นการวกกลับ โดยระบุว่าขอโทษประชาชนที่ทำให้สุ่มเสี่ยงไป
  • 3.กลไกที่เราต้องเชื่อมโยงถึงคนที่อยู่เบื้องหลังหรือคนที่สนับสนุน อย่างคนที่เป็นนายประกัน และอาจารย์ที่ชู 3 นิ้วใส่ตรามหาวิทยาลัยที่ไปชูด้วยกันก็ต้องเชื่อมโยงกันไปให้หมด ก็ถือว่าเป็นขบวนการเดียวกัน

 

หากขบวนการเหล่านี้ไม่มีบุคคลใดสนับสนุน ก็จะไม่มีการฮึกเหิมขนาดนี้ รวมทั้งจะเก่งกว่ากฎหมายและเคารพกติกาบ้านเมืองมากกว่านี้ โดยกรณีดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะขยายผลต่อไปอย่างแน่นอน

ขณะที่นายเทพมนตรี กล่าวว่า มันชัดเจนว่าน่าจะมีกระบวนการที่เตรียมการเอาไว้แล้ว ซึ่งคนดีดังกล่าวใครจะไปรู้ว่าพระองค์ท่านจะเสด็จเมื่อไหร่ เนื่องจากหมายกำหนดการไม่ได้ออกมาเผยแพร่โดยทั่วไป ซึ่งการอารักขาของพระราชวังเอง โดยมีพระราชเลขาที่ต้องดูแลถวายความปลอดภัยต้องปกปิดเรื่องการเดินทางอยู่แล้ว

ส่วนที่มีกลุ่มมวลชนมาเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมทางการเมือง อย่าง มาตรา 112 นายเทพมนตรี ระบุว่า มาตรา 112 ไม่ได้เป็นการเมือง แต่เป็นประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีความมั่นคง ส่วนเมื่อไปตีความเรื่องการเมือง ส่วนบุคคลที่ลี้ภัยทางการเมืองไม่ใช่ความผิดกฎหมายอาญา แต่ความจริงแล้วเราควรต้องกระจายความรู้ในเรื่องของความมั่นคง โดยเฉพาะกฎหมายทั้งหลายผ่านไปยังฑูตในประเทศต่างๆ โดยการประชาสัมพันธ์ว่ากฎหมายที่ถวายความปลอดภัยเพื่อรักษาความมั่นคงเกี่ยวกับประมุขของรัฐ เขาเรียกว่ากฎหมายอาญาไม่ใช่กฎหมายการเมือง

 

ซึ่งตนว่ามันแปลกมาก ท่องคาถากฎหมายการเมืองกันอยู่ได้ แม้กระทั่งกรณีของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ขณะนี้กำลังโดนอัยการพิจารณาอยู่ว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ซึ่งตนภาวนาว่าอัยการน่าจะฟ้องเป็นตัวอย่างว่าระดับด็อกเตอร์กฎหมายที่จบมาจากฝรั่งเศสก็สมควรโดน ถ้าหากเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ดีใจมีรถไฟใต้ดินใช้แล้ว
ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน
ฮูตีเคลมผลงาน F/A-18 โดนสอยร่วงทะเลแดง
สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"
“ว้าแดง”เหิมหนัก! สั่งคนไทยห้ามเก็บของป่า ชาวบ้านผวา-ซ้อมอพยพถี่ยิบ
เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว
ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น