“พ่อตะวัน” ว้าวุ่นขอประกันตัวลูกสาวอีกรอบ แก้ตัวไม่มีเจตนาป่วนขบวนเสด็จฯ แค่บีบแต่ไล่ตร. ฟุ้งใหญ่จะบังคับไม่ให้ยุ่งการเมืองอีก

"พ่อตะวัน" ว้าวุ่นขอประกันตัวลูกสาวอีกรอบ แก้ตัวไม่มีเจตนาป่วนขบวนเสด็จฯ แค่บีบแต่ไล่ตร. ฟุ้งใหญ่จะบังคับไม่ให้ยุ่งการเมืองอีก

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของตะวัน หรือ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกศาลอาญาอนุมัติฝากขังในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 จากกรณีขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนิน เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นประกันตัวตะวันอีกครั้ง หลังจากที่ตะวัน ได้อดข้าวอดน้ำประท้วงจากกรณีที่ถูกฝากขัง จนทำให้เกิดอาการวิกฤตและต้องหานำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ “สายน้ำ” ผู้ต้องหาในคดีพ่นสีกำแพงพระบรมมหาราชวัง และมวลชนที่สนับสนุนบางส่วน เดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย

 

"พ่อตะวัน" ยื่นขอประกันตัว

 

โดยนายสมหมายระบุว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อขอความเมตตาให้ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวตะวันและแฟรงค์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ตนได้ไปเยี่ยมทั้งคู่ที่โรงพยาบาล พบว่าทั้งคู่อาการหนักมาก โดยเฉพาะตะวันผอมซูบจนเห็นหนังติดกระดูก ซึ่งแพทย์ประเมินอาการว่า หากไม่รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจจะอาการหนักถึงชีวิตได้หรืออาจจะไม่สามารถรักษาแก้ไขได้อีก

 

ส่วนประเด็นที่ทั้งสองแสดงเจตจำนงปฏิเสธรับการรักษานั้น นายสมหมายทราบเพียงว่า ทั้งคู่ไม่รับยาใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากจิบน้ำตามเวลา ซึ่งตนก็กังวลและหวังว่าวันนี้ศาลจะเมตตาให้ประกันตัว เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ออกมาต่อสู้คดีและรับการรักษาพยาบาล แต่หากวันนี้ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ตนและภรรยาร่วมกับแพทย์ ก็คงจะต้องเกลี้ยกล่อมทั้งคู่ให้รับการรักษาต่อไป อย่างน้อยที่สุดเป็นการรักษาชีวิต เพื่อที่จะได้มีแรง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ต่อสู้ในวันข้างหน้าต่อไป

 

นายสมหมายเผยอีกว่า ตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ ที่จะฝากอะไรอีกแล้ว ถ้าหากว่าตอนนี้ไม่ช่วยให้สองคนนี้ออกมา ก็อาจจะต้องเสียชีวิต ซึ่งอย่างไรก็ตามต้องรอผลวันนี้ว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ หรือเคาะหลักทรัพย์การประกันตัวจำนวนเท่าไหร่

 

 

"พ่อตะวัน" ยื่นขอประกันตัว

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้นนายสมหมายได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์วันที่มีการขัดขวางขบวนเสด็จว่า ในวันนั้นสายน้ำและแฟรงค์จะเดินทางไปร่วมงานศพของแนวร่วมทะลุฟ้ารายหนึ่งที่เสียชีวิต ซึ่งปกติทั้งคู่จะใช้รถกระบะในการโดยสาร แต่วันนั้นปรากฏว่ารถเสีย จึงต้องไปหยิบยืมรถของคนอื่นมาใช้ ดังนั้นรถในวันเกิดเหตุ จึงไม่ใช่รถของตะวันและแฟรงค์ ซึ่งหลังจากร่วมงานศพเสร็จแล้ว ทั้งคู่จะเดินทางไปทำธุระส่วนตัวต่อ จึงปรากฏเห็นว่า ทั้งคู่ได้ขับรถไปที่ทางด่วนด่านพหลโยธินที่เกิดเหตุ

 

โดยนายสมหมายได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในวันนั้นทั้งคู่เพียงแค่ขับรถที่จะลงทางด่วน แต่ดันไปเจอกับรถปิดท้ายขบวนเสด็จ จึงเกิดการปะทะคารมกับตำรวจตรงนั้น แต่ขอให้สังเกตดูว่า โดยปกติแล้ว ขบวนเสด็จพระราชดำเนินของพระราชวงศ์ แทบจะไม่มีใครทราบหรือรู้ว่า พระองค์จะเสด็จไปทางไหน เวลาไหน และมีโอกาสที่ผู้สัญจรผ่านไปมาทั่วไปจะพบเจอขบวนเสด็จได้ ในวันนั้นตะวันแล้วแฟรงค์เพียงแค่จะลงทางด่วนทางเดียวกันเพื่อไปธุระส่วนตัว จึงเป็นไปได้ยังไงที่ทั้งคู่จะมีเจตนาที่จะยุยง ปลุกปั่น ไปขัดขวางขบวนเสด็จ เพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าวันนั้นจะมีขบวนเสด็จผ่านมา

 

อีกประการหนึ่งที่ตนตั้งข้อสงสัยคือ โดยปกติแล้วขบวนเสด็จพระราชดำเนินจะใช้ความเร็วอยู่ที่ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจากในคลิปจะเห็นว่า ทั้งคู่ใช้เวลา 31 วินาที ซึ่งตอนนั้นขบวนน่าจะขับไปไกลมากแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตะวันและแฟรงค์จะใช้ความเร็วเพื่อที่จะแซงหรือขัดขวางขบวนเสด็จ จึงทำได้เพียงแค่บีบแตรแสดงความไม่พอใจให้กับตำรวจแค่นั้น

 

และยังตั้งประเด็นอีกว่า จากที่มีกลุ่มไอโอพยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริงอ้างว่า ทั้งคู่พยายามที่จะจอดเบียดแซงขบวนเสด็จนั้น ตนมองว่า ถ้าทำถึงขนาดนั้นจริง ป่านนี้ทั้งคู่น่าจะถูกยิงไปแล้วหรือไม่ก็ถูกจับกุมตั้งแต่วันนั้นแล้ว เพราะมิเช่นนั้นทางตำรวจก็จะถูกตั้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

 

"พ่อตะวัน" ยื่นขอประกันตัว

 

หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น นายสมหมายกล่าวว่า ได้มีการต่อว่าสั่งสอนตักเตืนตะวันไปแล้วว่าอย่าทำแบบนี้อีก แต่ตนก็ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงจนถึงขนาดนี้ ซึ่งยอมรับว่า ตะวันอาจจะใช้ถ้อยคำน้ำเสียงหรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่ฝากไปถึงสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ให้ลองคัดเสียงเอาแค่คำถามของทั้งคู่มานำเสนอหรือมาเขียนเป็นตัวหนังสือ ก็จะเห็นว่า คำถามของทั้งคู่นั้น เข้าข่ายพฤติการณ์ปลุกปั่น ยั่วยุให้เกิดความแตกแยกตามมาตรา 116 หรือไม่

 

นายสมหมายยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้ถูกกลุ่มไอโอ หรือพวกต้องการผลประโยชน์ทางการเมืองบางกลุ่ม นำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง กลายเป็นว่าทำให้ทั้งสองคนนี้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งนายสมหมายยังหวังว่า ศาลอาญาจะมีเมตตาให้ทั้งสองคนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ออกมารับการรักษาและต่อสู้คดีตามสิทธิ์ของเขา หากเขาทั้งคู่ผิดก็ว่ากันไปตามผิด แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีการต่อสู้คดีใด ๆ เลย กลายเป็นว่าสังคมตัดสินไปแล้วว่าเขาทั้งคู่มีความผิด

 

ก่อนที่นายสมหมายจะย้ำทิ้งท้ายว่า หากตะวันได้รับการปล่อยตัวออกมาได้ ตนจะไม่ให้เขายุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป จะให้เขากลับไปใช้ชีวิตที่เหมาะสมตามวัยของเขาและเรียนหนังสือให้จบ ตนจะบังคับไม่ให้ตะวันยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป

 

 

ด้านสายน้ำระบุว่า การยื่นขอประกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกเป็นการยื่นในวันที่มีการขอฝากขัง ส่วนครั้งที่ 2 พ่อของทานตะวันเป็นผู้ยื่นขอประกัน โดยขอย้ำอีกครั้งว่า คดีนี้ยังคงอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งยังไม่ถูกส่งไปที่ชั้นพนักงานอัยการ ซึ่งใกล้จะครบผัดแรกแล้วคือ 12 วัน และต้องมาลุ้นกันว่าพนักงานสอบสวนจะมีการยื่นฝากขังในผัดที่ 2 หรือไม่

 

ขณะเดียวกัน ทั้ง 2 มีอาการเจ็บป่วยอย่างมาก พร้อมยกตัวอย่างกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการพักโทษเนื่องจากอาการเจ็บป่วย ซึ่งตนมองว่า สภาพของเพื่อนทัสองมีอาการที่หนักกว่านายทักษิณอย่างมาก

 

สำหรับเรื่องการออกหมายจับของเพื่อนทั้ง 2 คน เบื้องต้นคดีนี้มีการออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นหมายเรียกของศาลแขวงพระนครเหนือ และเป็นคดี คดีลหุโทษในความผิดทางจราจรทั้ง 2 ครั้ง โดยหลังจากนั้น ได้ไปขอออกหมายจับของทั้งคู่ที่ศาลแขวงดุสิต ก่อนที่จะเพิ่มข้อกล่าวหาในคดี มาตรา 116 และมาขอหมายจับที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก

 

ทั้งนี้ ศาลแขวงดุสิตได้เคยลงความเห็นไว้ว่า การออกหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง กระชัดชิดเกินไป และโดยปกติแล้วในคดีลหุโทษหรือคดีทั่วไป ก็สามารถทำเรื่องของเลื่อนได้ อีกทั้งคู่จะมีพฤติการณ์หลบหนีก็ไม่ใช่ เพราะทั้งคู่ไม่เคยหลบหนีมาก่อน ทั้งคู่ก็มาปรากฏตัวที่ศาลเป็นประจำและทุกครั้งที่ได้หมายเรียกก็มาตามหมายเรียกตลอด ส่วนการจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเพียงเด็กแค่ 2 คน จะไปยุ่งกับพยานหลักฐานได้อย่างไร จึงมองว่า ไม่มีเหตุสมควรที่พนักงานสอบสวนจะขอออกหมายจับตั้งแต่แรก

 

สายน้ำยังกล่าวทิ้งท้ายว่า สิทธิที่ผู้ต้องหาควรได้รับคือ สิทธิของการประกันตัว เพราะตอนนี้ตะวันและแฟรงค์ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน พร้อมฝากทุกคนว่า เพื่อนของตนทั้ง 2 คนใกล้จะตายแล้ว เนื่องจากอดน้ำและอาหารมาอย่างยาวนาน และขอให้ศาลคืนสิทธิการประกันตัวให้กับเพื่อนเรา

 

ทั้งนี้ ตะวัน พร้อมด้วยนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ แนวร่วมนักกิจกรรมทางการเมือง ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และอีกหลายข้อหา จากกรณีขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนินในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

 

"พ่อตะวัน" ยื่นขอประกันตัว

 

ซึ่งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้อนุมัติให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งสอง จนทำให้ตะวันและแฟรงค์ประกาศอดข้าวอดน้ำและไม่ยื่นประกันตัวเป็นการประท้วง พร้อมเรียกร้อง 3 ข้ออุดมการณ์ ได้แก่ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ต้องไม่มีคนติดคุกเพราะเห็นต่างทางการเมือง และประเทศไทยไม่ควรได้เป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

 

"พ่อตะวัน" ยื่นขอประกันตัว

 

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ได้อดน้ำอดข้าวประท้วงเป็นวันที่ 11 แล้ว ซึ่งทั้งคู่เริ่มมีอาการเข้าสู่ภาวะวิกฤต จนทำให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องนำตัวตะวันส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ส่วนแฟรงค์ได้นำตัวส่งรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

 

"พ่อตะวัน" ยื่นขอประกันตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น