“ดร.นิว”สมน้ำหน้าอาจารย์ไอดอล3นิ้วตกกระป๋อง

"ดร.นิว"สมน้ำหน้าอาจารย์ไอดอล3นิ้วตกกระป๋องโคตรโชคดีไม่ได้นั่งอธิการบดีเสี้ยมสอนนักศึกษาคลั่งพรรคล้มล้าง

ในบรรดาอาจารย์นิติศาสตร์ขวัญใจมหาชนชาว “ด้อมส้ม” อันดับต้น ๆ ต้องยกนิ้วให้ “ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล” ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เพิ่งตกกระป๋องชวดเก้าอี้ “อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ไปหมาดๆ เนื่องจากระบบเลือก”อธิการบดี” จะมีคณะกรรมการสรรหาและให้ 51 หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยเป็นผู้โหวตเลือก ซึ่งได้เลือก”ศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์” ชนะขาดลอย เหมือนข่าวช็อกโลกทำให้ “องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ฝันสลายเพราะก่อนหน้านี้ อุสาห์ช่วยเข็นจัดโหวต “ผศ.ดร.ปริญญา” ชนะแลนด์สไลด์

ในสาย “ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ” หรือ “ดร.นิว” เห็นว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักศึกษาที่ไม่ได้อยู่ในขบวนการ 3 นิ้ว โคตรโชดดีมากๆ ที่ไม่ได้ อาจารย์ไอดอลขบวนการ 3 นิ้วมากุมบังเหียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ โดยระบุข้อความไว้ว่า “โชคดีของประชาคมธรรมศาสตร์ที่นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ได้รับการเสนอชื่อเป็นอธิการบดีในอันดับท้ายสุด มิฉะนั้นไม่รู้ว่าธรรมศาสตร์จะไปทางไหน เพราะนายปริญญาปล่อยให้ม็อบสามนิ้วใช้ธรรมศาสตร์ปราศรัยล้มล้างการปกครอง ใช้วิชา TU100 ต่อท่อกับพรรคก้าวไกล ดังนั้นให้ปริญญาจบที่รุ่นเรา ก็ดีแล้ว

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ “ดร.นิว” เคยเขียนถึง “ผศ.ดร.ปริญญา”ด้วยว่า “ธรรมศาสตร์ไม่ได้ล้มเจ้าทุกคน แต่ทำไมบางคนสาละวนกับเครือข่ายล้มล้างการปกครอง?” ผมเรียนธรรมศาสตร์รหัส 53 รู้จักนายปริญญาผ่าน TU100 วิชาภาคบังคับว่าด้วยหน้าที่พลเมือง เมื่อก่อนรู้สึกนิยมชมชอบนายปริญญาเพราะภาพลักษณ์ดีมีหลักการ แต่ก็แอบสงสัยทำไมรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาในขณะนั้นอย่างนายปริญญาถึงไม่ปกป้องนักศึกษาจากการบิดเบือนล้างสมองของเครือข่ายอาจารย์ล้มเจ้า ส่วนปัจจุบันผมหมดศรัทธาและเลิกนับถือคนอย่างนายปริญญามาหลายปีแล้ว เพราะสุดท้ายนายปริญญาก็เป็นเพียงแค่อีแอบ อีกทั้งปัจจุบันยังเปิดหน้าออกสื่ออย่างไม่เหนียมอาย ออกหน้าอวยม็อบสามนิ้วกับพรรคก้าวไกลมาโดยตลอด แถมยังใช้วิชา TU100 เป็นประตูเชื้อเชิญพรรคก้าวไกลเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับนักศึกษาอีกด้วย จึงน่าสงสัยว่านายปริญญากำลังทำตัวเป็นหัวคะแนนของพรรคก้าวไกลทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์หรือเปล่า? ตลอดหลายปีที่ผ่านมาวิชา TU100 เป็นเครื่องมือของนายปริญญาในการเข้าถึงนักศีกษาธรรมศาสตร์ทุกคน โดยใช้เพื่อสร้างความนิยมในภาพลักษณ์ที่ตนเองได้สร้างขึ้น ตลอดจนชี้นำทางความคิดต่างๆ หรือไม่?
มันช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน ม็อบสามนิ้วล้มล้างการปกครองเกิดขึ้นที่ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตในปี 63 ซึ่งขณะนั้นนายปริญญาเป็นรองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต แล้วต่อมาพรรคการเมืองที่นายปริญญาอวยสุดลิ่มทิ่มประตูและเชิญมาในวิชา TU100 ก็เข้าข่ายล้มล้างการปกครองทั้งในแง่ของเจตนาและพฤติการณ์

น่าแปลกใจที่นายปริญญาสาละวนกับเครือข่ายล้มล้างการปกครองทั้งสองกรณี กรณีแรกนายปริญญาก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะรู้ไม่ทันม็อบสามนิ้ว แต่ก็ปล่อยให้การทำผิดเกิดขึ้นในรั้วธรรมศาสตร์อย่างโจ่งครึ่ม ทำได้แค่ออกมาขอโทษสังคมเท่านั้น กรณีที่สองเปิดหน้าเชียร์พรรคก้าวไกลและใช้ TU100 เป็นประตูให้เข้ามาในรั้วธรรมศาสตร์

นายปริญญากล้าปฏิเสธหรือไม่ว่าซอกหลืบของรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่ได้เป็นจุดเริ่มต้นและแหล่งเพาะเชื้อล้มเจ้าทั้งในแง่ของชุดความคิดและบุคคล ก่อนที่จะเติบโตขึ้นผ่านการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธ (Weaponization of Social Media) ชี้นำทางความคิดสร้างแนวร่วมจนกระทั่งกลายเป็นเครือข่ายล้มล้างการปกครองในปัจจุบัน?

ไม่ว่านายปริญญาจะจงใจให้ม็อบสามนิ้วปราศรัยล้มล้างการปกครองในศูนย์รังสิตหรือไม่และเกี่ยวข้องพรรคก้าวไกลอย่างไร? ท้ายที่สุดผมขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้สังคมได้รับรู้ว่าธรรมศาสตร์ไม่ได้ล้มเจ้าทุกคน ยังมีคนธรรมศาสตร์อีกมากมายที่รักและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย

ล่าสุดอาจารย์ไอดอล “ด้อมส้ม” ไม่ถอดใจประกาศไปต่อ โดย “ผศ.ดร.ปริญญา” ระบุข้อความประกาศนโยบายสวยหรู 4 เรื่อง ดังนี้ 1. ในเรื่องการเปลี่ยนทิศทางของธรรมศาสตร์นั้น ดังที่ผมกล่าวไปในการสนทนาประชาคมกับหลายคณะว่า ผมเสนอตัวเพื่อให้ท่านรองอธิการบดีทั้งสองท่านที่เสนอตัวมาก่อนผม ได้มาแข่งขันกับผมในเรื่องการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน และนโยบายที่สำคัญอื่นๆ เช่น การเป็นผู้บริหารที่ไม่ใช่เจ้านาย หรือบริหารแบบท็อปดาวน์หรือจากบนลงล่าง ซึ่งผมเข้าใจว่าในเรื่องนี้ได้ผลพอสมควร

2. เรื่องสร้างนโยบายสาธารณะของธรรมศาสตร์ จากการสนทนาประชาคมด้วยคำถามว่า “อะไรคือการปฏิบัติที่เป็นเลิศของคณะหรือหน่วยงานของท่าน“ ทำให้ผมได้ข้อมูลของคณะทุกคณะครบถ้วน 28 คณะ และหน่วยงานอีก 15 หน่วยงาน ในการทำ “แผนที่ความเป็นเลิศ“ เพื่อใช้ในการทลายไซโล หรือระบบต่างคนต่างอยู่ของคณะ ซึ่งจะทำให้ธรรมศาสตร์กลับสู่ความเป็นเลิศ มีความดึงดูดใจ และรับมือได้กับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น ผมจะได้นำเสนอต่อประชาคมธรรมศาสตร์ต่อไปครับ

3. สำหรับเรื่องระบบการเสนอชื่อ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านไปนั้น ในฐานะอาจารย์ที่ไม่ใช่ผู้บริหารมหาวิทยาลัย แม้จะเคยเป็นรองอธิการบดีแต่ก็ไม่ได้เป็นมา 3 ปีแล้ว ผมได้พบปัญหาในเรื่องวิธีการเสนอชื่ออธิการบดี ที่ใช้วิธีการให้เสนอเป็นคณะและหน่วยงาน โดยประกอบด้วย 52 คณะและหน่วยงาน กับหนึ่งองค์การนักศึกษา ซึ่งแตกต่างไปจากการเสนอชื่ออธิการบดีในอดีตที่แบ่งเป็น 3 สายคือ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา ระบบที่ใช้ขณะนี้อาจจะมีปัญหาเรื่องความเสมอภาค และลดทอนโอกาสของผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัยในการได้รับการเสนอชื่อเนื่องจากยากจะเข้าถึงหน่วยงานได้ทั้งหมด ผมเห็นว่าเห็นว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะผู้นำในเรื่องความเป็นธรรม และประชาธิปไตย ควรจะต้องแก้ไขวิธีการได้มาซึ่งอธิการบดีในการสรรหาครั้งต่อๆ ไป ซึ่งผมจะได้เขียนเป็นบทความต่างหากนำเสนอต่อประชาคมธรรมศาสตร์ต่อไปครับ

และ 4. สำหรับผมเองนั้น เมื่อคณะกรรมการสรรหาประกาศวันเสนอชื่ออธิการบดีในวันที่ 21 มกราคม 2567 หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ผมจึงได้เสนอตัวต่อประชาคมธรรมศาสตร์ โดยไม่ได้ใช้ระบบหัวคะแนนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งแม้ว่าระยะเวลาเพียง 24 วันจะไม่สามารถทำให้มีผู้เสนอชื่อผมมากกว่าท่านรองอธิการบดีทั้งสองท่านได้ แต่การที่ผมได้รับการเสนอชื่อจากทุกคณะ ทำให้เห็นว่าการนำเสนอนโยบายและวิธีการทำงานก็สามารถได้รับความสนับสนุนจากชาวธรรมศาสตร์ได้แม้จะไม่ได้เป็นผู้บริหาร
5. สำหรับผลการเสนอชื่อนั้น ผมเคารพการตัดสินใจของประชาคมธรรมศาสตร์ทุกประการ โดยเมื่อได้รับทราบผลเป็นทางการจากคณะกรรมการสรรหาแล้ว ผมจะได้ประกาศให้ประชาคมธรรมศาสตร์ได้ทราบว่าผมจะตัดสินใจหรือดำเนินการอย่างไรต่อไป ภายใต้การคำนึงถึงเสียงของนักศึกษาที่เสนอผมเพียงชื่อเดียวไม่ให้สูญเปล่า รวมถึงความรับผิดชอบต่อความคิดเห็นและข้อมูลที่ได้มาจากการไปสนทนาประชาคมกับทุกคณะและหน่วยงานด้วย ทั้งนี้ ตามที่ผมได้กล่าวมาตั้งแต่ต้นว่า เป้าหมายของผมที่เสนอตัวคือเพื่อเปลี่ยนแปลงและสร้างนโยบายสาธารณะให้ธรรมศาสตร์ การเป็นอธิการบดีเป็นเรื่องสำคัญน้อยกว่ามาก

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น