ช็อก เพื่อนบ้านบุกรุก คดี “ครอบครองปรปักษ์” บ้านอากู๋ ตัดสินใจลาโลกแล้ว

ช็อก เพื่อนบ้านบุกรุก คดี "ครอบครองปรปักษ์" บ้านอากู๋ ตัดสินใจลาโลกแล้ว

จากประเด็น “ครอบครองปรปักษ์” มหากาพย์ฮุบบ้าน หลังจากเกิดเหตุเพื่อนบ้านบุกยึดบ้านย่านรามอินทรา กทม.เมื่อเดือน ต.ค.ปี 66 จนเป็นข่าวดัง เจ้าของบ้านที่เรียกว่า “อากู๋” ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเพื่อนบ้านข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สินไปแล้ว แต่ตอนนั้นอีกฝ่ายพยายามเจรจาจะซื้อบ้านและยอมจ่ายค่าเสียหายให้ แต่สุดท้ายก็ตกลงกันไม่ได้

 

 

 

 

และได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ต้นปี 2567 เพื่อนบ้านได้เข้าไปบุกยึดบ้านรอบ 2 พบว่าคู่กรณีตัดกุญแจบ้าน แถมติดป้ายไม่ให้เจ้าของบ้านเข้า ก็คือ หลานชายและหลานสะใภ้ที่อากู๋ได้ยกบ้านให้เพื่อเป็นของขวัญแต่งงาน จนมีการแจ้งความข้อหาบุกรุกทำให้เสียทรัพย์อีกรอบโดยทราบว่าคราวนี้อีกฝ่ายมาเปิดร้านขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา ทั้งที่คดีเก่ายังไม่สิ้นสุด

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาหลานชายและหลานสะใภ้ของอากู๋เหมทัศน์ พร้อมทนายกุ้ง น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ ทีมทนายความของ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมาที่ สน.โคกคราม เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันพร้อมขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตัดกุญแจที่บ้านพิพาทและเก็บของกลาง เป็นหลักฐาน

โดยนายซัน บอกว่า ตนเองและภรรยา ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจ จากอากู๋ ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับ น.ส.ศรีพรรณ พร้อมกับพวกที่มีการบุกรุกเข้าไปในบ้านพิพาทหลังดังกล่าว ประกอบอาหาร ขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา ในคดีฐานบุกรุก ลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งตนเองมองว่าเกินที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้แล้ว เพราะรอบนี้ถือว่าเป็นการบุกรุกครั้งที่ 2 ถึงต้องมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยตนเองได้เก็บหลักฐานไว้หมดแล้วว่ามีใครเป็นผู้บุกรุกบ้าง ไม่กังวลหากทางคู่กรณีไม่แสดงตัวหรือปฏิเสธ เพราะมีหลักฐานชัดเจน ทั้งชื่อนามสกุลและตัวบุคคล

 

 

โดยหลังลงบันทึกประจำวัน และแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจ สน.โคกคราม พร้อมนายซันเจ้าของบ้านและทีมทนายความได้พาช่างกุญแจมาที่บ้านพิพาทดังกล่าว ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะถามว่ามีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่ซึ่งไม่มีบุคคลอื่นมาแสดงตัว มีเพียงนายซัน ทายาทอากู๋เท่านั้น จากนั้นช่างกุญแจ ปีนเข้าไปในบ้านเพื่อมาดำเนินการตัดกุญแจที่หน้าบ้านพิพาท ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็สามารถตัดกุญแจเข้าไปด้านในได้ ซึ่งภายในบ้านจะมีข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ทำครัวโต๊ะ เก้าอี้และเฟอร์นิเจอร์รับแขกบางส่วนอยู่ด้านในบ้านด้วน

โดยทนายกุ้ง เปิดเผยว่า ทรัพย์สินต่างๆภายในบ้านจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไว้เป็นของกลางเป็นหลักฐานและดำเนินคดี เบื้องต้นตอนนี้ 1 คน คือ นางสาวศรีพรรณที่แสดงชื่อแสดงตัวติดป้ายอยู่หน้าบ้าน ส่วนใครที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกครั้งนี้จะต้องให้ตำรวจดำเนินคดีหมดทุกคน หากมีการต่อน้ำ ต่อไฟ มาจากบ้านไหนก็ต้องดำเนินคดีด้วยฐานสนับสนุนในการกระทำผิด ส่วนนายซันวันนี้กผ้ขนเสื้อผ้าของใช้จะนอนที่บ้านหลังดังกล่าวคืนนี้ด้วย

 

 

ทั้งนี้ได้มีการปลดป้ายไวนิลไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาออกและนำป้ายแสดงความเป็นเจ้าของ ของในซันหลานอากู๋ขึ้นมาติดแทนโดยมีข้อความระบุว่า พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตหรือเข้ามากระทำการใดๆทั้งสิ้นหากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

 

ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า เพื่อนบ้านหนึ่งในผู้ต้องหา คู่กรณีบ้านอากู๋ครอบครองปรปักษ์นั้น ได้ตัดสินใจผูกคอจบชีวิตตัวเอง ในบ้านพักตัวเอง เสียชีวิต ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คันนายาวอยู่ระหว่างการสอบสวน หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พุทธศาสนิกชนคับคั่ง งานมหากุศลทอดกฐินสามัคคีวัดเขาบายศรี
"สรรเพชญ" จี้รัฐเร่งแก้หนี้ครัวเรือน ชี้แนวปฏิบัติยังล่าช้า ควรปรับนโยบายให้ชัดได้ผลเป็นรูปธรรม
"ตร.ไซเบอร์" รวบบัญชีม้าแก๊งเงินกู้ออนไลน์ ลวงนักเตะทีมชาติสูญ 2.7 ล้าน
ผบ.ทร.ร่วมโต๊ะทานอาหารกับนักเรียนจ่า เน้นย้ำ ปกครองเที่ยงธรรม ปลูกฝังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
รวมพลคนสายบุญ ร่วมกับ สบายดีช่อผกาอินเตอร์กรุ๊ป จัดกิจกรรมปันรอยยิ้มให้น้อง ปี 3
"สาวอบต.บุรีรัมย์" ช็อก ตร.ตามตัวถึงบ้าน ปมรับเงินโอน "เจ๊อ้อย" 39 ล้าน แจงยิบไม่รู้จักมาก่อน
ตำรวจนำตัว "เต้ย" มือตบ "ทนายธรรมราช" ฝากขัง ยันไม่มีคนจ้างแค่บันดาลโทสะ
"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "หอการค้า-บริษัทธุรกิจญี่ปุ่น" ชี้ชวนขยายลงทุนในไทย
"ทนายเดชา" เตือนนักร้องเรียน ระมัดระวังปาก ร้องเรื่องไม่มีสาระ กลั่นแกล้งคนอื่น จนเป็นเหตุให้ถูกทำร้าย
กทม.จ่อบังคับฝังชิป "สุนัข-แมว" ห้ามเลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนด พร้อมคุมสุนัขพันธุ์ดุเป็นพิเศษ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น