ญาติเผยผู้ตาย เครียดหนัก ก่อนตัดสินใจลาโลก “ทนายเจ้าบ้าน” ยันผู้ตายเป็นจำเลยคดีบุกรุก แต่ไม่ใช่คดีครอบครองปรปักษ์

ญาติ เผย ผู้เสียชีวิตเครียดถูกดำเนินคดีครอบครองปรปักษ์ จนก่อเหตุสลด ด้านทนายเจ้าของบ้าน ยืนยัน ผู้ตายเป็นจำเลยคดีบุกรุก แต่ไม่ใช่คดีครอบครองปรปักษ์

ญาติเผยผู้ตาย เครียดหนัก ก่อนตัดสินใจลาโลก “ทนายเจ้าบ้าน” ยันผู้ตายเป็นจำเลยคดีบุกรุก แต่ไม่ใช่คดีครอบครองปรปักษ์Top News รายงาน

คดีครอบครองปรปักษ์

(26 ก.พ.67) บรรยากาศที่ สน.คันนายาว มีความเคลื่อนไหวญาติของ นางภานุมาศ สามัคคี อายุประมาณ 50 ปี ผู้ต้องหาคดีครอบครองปรปักษ์ที่ผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพัก ย่านรามอินทรา ได้มาติดต่อกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการทางคดี

ญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ผู้เสียชีวิตอาจมีจะอาการเครียด หลังจากเกิดเป็นกระแสข่าว โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน จึงไม่ทราบว่า มีปัญหาอื่นมารุมเร้าด้วยหรือไม่ หรือมีโรคประจำตัวอะไร ส่วนด้านการต่อสู้คดีนั้น ตนเองไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยว จึงไม่ทราบข้อมูลแต่อย่างใด ส่วนอุปนิสัยใจคอของผู้ตายนั้น จะเป็นคนชอบทำบุญ และจะเข้าวัดไปสวดมนต์ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และยังทราบมาว่า ผู้ตายได้ทำเรื่องขอบริจาคอวัยวะร่างกายไว้ด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง ทนายความฝ่ายเจ้าของบ้านตัวจริงที่เป็นคู่กรณี เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องการเสียชีวิตของอดีตคู่กรณีที่เข้าไปยึดบ้านของลูกความ ก็รีบเดินทางมายัง สน.คันนายาว เพื่อสอบถามกับพนักงานสอบสวน โดยยังไม่ได้มีการพูดคุยกับลูกความ และญาติของฝ่ายอดีตคู่กรณีแต่อย่างใด จึงขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นด้วย

ส่วนการที่ทนายความของคู่กรณีได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ทางลูกความได้ใช้สื่อมวลชนกดดัน จนทำให้ผู้เสียชีวิคเกิดความเครียดจนฆ่าตัวตายนั้น ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนเอง ไม่น่าจะเป็นการกดดันจนทำให้ผู้เสียชีวิตเกิดความเครียดได้

ส่วนข้อพิพากที่เกิดขึ้น เริ่มจากการที่ฝ่ายเจ้าของบ้านตัวจริงได้แจ้งความดำเนินคดีบุกรุกกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 5 คน ที่เข้าไปยึดครองบ้านหลังดังกล่าว โดยในจำนวนนั้น มีผู้ตายอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นการพิจารณาสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งเบื้องต้นมีกำหนดจะสั่งฟ้องในวันที่ 6 มีนาคมนี้ แต่หลังจากที่หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิต ทางพนักงานอัยการก็จะสั่งไม่ฟ้องกับผู้เสียชีวิตรายนี้ จำหน่ายออกจากคดีไป ในส่วนนี้เป็นคดีในภาคแรก

ต่อมาก็เกิดเรื่องราวภาค 2 ขึ้น เมื่อหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาได้ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ออกคำสั่งครอบครองปรปักษ์กับบ้านหลังดังกล่าว เมื่อทางฝ่ายเจ้าของบ้านตัวจริงทราบเรื่อง จึงมอบอำนาจให้ทนายความยื่นเรื่องคัดค้านและฟ้องขับไล่ พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง โดยคิดเป็นค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปี ซึ่งเป็นในส่วนของคดีแพ่ง แต่ในส่วนของคดีอาญาทางเจ้าของบ้านตัวจริงได้ไปแจ้งความข้อหาบุกรุกกับคู่กรณี ซึ่งผู้ตายไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีในภาค 2 แต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ปคบ.บุกทลายโรงงานเครื่องสำอางเถื่อน ลอบผลิต-ส่งขายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลางกว่า 4 หมื่นชิ้น
ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”
“ไอซ์ รักชนก” เตรียมระทึกอีก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน 11 ธ.ค.นี้ ลุ้นชี้ชะตาจะรอดคุกหรือไม่
ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่อุทยานขุดพรุน 14 ไร่ หาแร่ทองคำล้ำค่า เจ้าหน้าที่บุกจับแจ้ง 6 ข้อหาอ่วม
“ณัฐวุฒิ” ไม่เชื่อมีม็อบใหญ่ไล่รัฐบาล หยันหากมีก็แค่ ‘กองเชียร์ส้ม’ ในคราบอนุรักษ์นิยม
“ทนายสายหยุด” หน้าชา! “ทนายเดชา” ซัดคบไม่ได้-ขายลูกความ ไม่เชื่อ “ทนายตั้ม” ค้านประกันเมีย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น