“ทนายเดชา-เจ้าของบ้าน” แจงชัด ไม่ได้กดดันคู่กรณี พร้อมเปิดแชทข้อความสุดท้าย คุยกับผู้ตายก่อนสิ้นใจ

ทนายเดชาพร้อมทายาทเจ้าของบ้านคู่กรณี ฟ้องครอบครองปรปักษ์ แถลงโต้ไม่ได้ใช้สื่อเป็นเครื่องมือกดดันจนทำให้ 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องขับไล่ จากบ้านพิพาทในคดีครอบครองปรปักษ์ ต้องคิดสั้น ฆ่าตัวตาย พร้อมเปิดข้อความแชทครั้งสุดท้ายที่ผู้เสียชีวิตส่งให้ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองหลังจากนั้น 1 สัปดาห์

ทนายเดชา-เจ้าของบ้าน” แจงชัด ไม่ได้กดดันคู่กรณี พร้อมเปิดแชทข้อความสุดท้าย คุยกับผู้ตายก่อนสิ้นใจTop News รายงาน

สุดท้าย

(26 ก.พ. 67) นี่เป็นข้อความแชทสุดท้ายของนางสาวภาณุมาศ สามัคคี 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกนายซัน หลานอากู๋ ฟ้องเป็นคดีขับไล่เมื่อปลายปี 66 ซึ่งอัยการเตรียมส่งฟ้องศาลในเดือนมี.ค. ที่จะถึงนี้ ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการผูกคอฆ่าตัวตาย ในบ้านพักย่านรามินทรา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยนางสาวภาณุมาศส่งแชทดังกล่าวไปให้แฟนสาวของนายภาคิน หรือซัน หลานอากู๋ เจ้าของบ้าน ข้อความระบุว่า “ยังไงก็คิดว่าทำบุญให้คนป่วยแบบพี่ด้วยนะคะ”

สุดท้าย

แชทดังกล่าว เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และคุณซัน นำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ในการแถลงข่าวเมื่อช่วงบ่าย ที่สำนักงานทนายเดชาย่านรามอินทรา

ทนายเดชา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต ที่เป็นคู่กรณีฟ้องร้องเรื่องครอบครองปรปักษ์ และคดีบุกรุก ยอมรับว่าเมื่อได้ทราบข่าวตนเองก็ถึงกับช็อค เช่นเดียวกับคุณซัน และอากู๋เจ้าของบ้าน

ขณะที่คุณซัน หลานชายอากู๋ เจ้าของบ้าน ซึ่งอยู่ในอาการซึมเศร้า เปิดเผยด้วยน้ำตาคลอว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะถือเป็นความสูญเสีย ส่วนตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้ แต่ที่ไม่ได้เปิดใจคุยกันเพราะยังโกรธอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขนาดนี้ และขอให้ทุกฝ่ายอย่าซ้ำเติม ส่วนคดีความที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าช่วงแรกก็รู้สึกโกรธเคืองกลุ่มคู่กรณี แต่ก็มีความคิดที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยอยู่เหมือนกัน จากนี้คงต้องอโหสิกรรมให้ต่อกัน ส่วนเรื่องคดีความ คงต้องขอพูดคุยปรึกษากันภายในครอบครัวก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนจะไปร่วมงานศพหรือไม่ คุณซันบอกว่า แค่นี้ก็เสียใจมากพออยู่แล้ว ไม่อยากไปทำอะไรให้คู่กรณี เสียใจมากกว่านี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านทนายเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีดังกล่าวแบ่งเป็น 2คดี คดีแรก คือ คดีบุกรุก มีการฟ้องร้อง โดยมีคุณภาณุมาศเป็นหนึ่งใน 5 ผู้ต้องหา ขณะนี้คดียังอยู่ในระหว่างชั้นอัยการ โดยในวันที่ 6 มีนาคมนี้ อัยการจะนัดส่งฟ้องศาล กรณีคุณภาณุมาศเสียชีวิต ศาลน่าจะมีการจำหน่ายคดีในส่วนของคุณภาณุมาศออกไป

ส่วนอีกคดี คือคดีครอบครองปรปักษ์ เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มของคู่กรณีได้กลับเข้ามายึดบ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง ได้ฟ้องไปเมื่อช่วง เดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งคดีครอบครองปรปักษ์ไม่มีคุณภาณุมาศ เป็นจำเลย โดยคดีดังกล่าว มีเพียงคุณศรีพรรณ ซึ่งปรากฏชื่อในป้านโฆษณาร้านไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา เป็นจำเลยเพียงคนเดียว

ทนายเดชายังกล่าวถึง กรณีที่ทนายความของคู่กรณี กล่าวพาดพิงสื่อมวลชนและตนเองแม้จะไม่ได้ระบุชี้ชัดว่า คดีดังกล่าว ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนในการนำเสนอ ตนก็มองว่าเป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ตนไม่ได้ใช้สื่อเป็นเครื่องมือชี้นำหรือโจมตีฝ่ายตรงข้าม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาจากการให้คำแนะนำของทนายความของคู่กรณี ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าไปแนะนำอย่างไร ควรกลับไปทบทวน ตนเองว่า ทำไมการช่วยเหลือลูกความ สุดท้ายกลับทำให้ลูกความจบชีวิตตัวเอง เป็นทนายความต้องมีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ คุณธรรมต้องนำกฎหมาย โดยผู้ถูกกล่าวหามีความเชื่อมั่นในตัวทนายความคนล่าสุดมาก ว่าจะสามารถนำบ้านมาเป็นของตัวเองได้ ส่วนจะเป็นการหลอกเอาเงินลูกความหรือไม่นั้น ตนเองไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ แต่อยากให้ประชาชนไปคิดเอาเอง

ทนายเดชายังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวก็เพิ่งเคยเห็นคดีแรกที่ทนายความทำคดีแล้วลูกความเครียดจนเสียชีวิต ซึ่งยังไม่คิดถึงเรื่องการยื่นให้สภาทนายความตรวจสอบจริยธรรมของทนายตวามคู่กรณี ขึ้นอยู่กับนายซันว่าจะดำเนินการร้องเรียนไปหรือไม่

 

ทนายเดชา ยังกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ สามีของผู้ตายพร้อมกับสามีของผู้ถูกกล่าวหาอีกคน ได้มาพบกับตนเองและโทรศัพท์มาพูดคุยกับตนพร้อมระบุว่า ภรรยาได้สำนึกผิดในการบุกรุกเข้าไปในบ้านของอากู๋ และยินดีแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด และมีการติดต่อเพื่อขอเข้ากราบอากู๋เป็นการขอโทษ ก่อนที่จะเสียชีวิต มีความพยายามหลายครั้ง ซึ่งตนเองพยายามที่จะเป็นคนกลาง ช่วยคุยกับอากู๋ทั้งค่าเสียหาย และเรื่องคดีต่างๆ แต่อาจเป็นเพราะยังเจรจายังไม่ไปถึงไหน จึงอาจทำให้เกิดความเครียดตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นผู้เสียชีวิตก็เสียใจ พยายามที่จะพูดคุยเจรจา และเยียวยาค่าเสียหาย ซึ่งคนที่ร้องศาลให้มีคำสั่งครอบครองปรปักษ์ ไม่ใช่ผู้เสียชีวิต แต่เป็นพี่สาว ซึ่งผู้เสียชีวิตก็รู้สึกสำนึกในการกระทำและพร้อมเยียวยาค่าเสียหายทั้งหมด.

สุดท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รองพ่อเมืองกรุงเก่า ร่วมงานวิ่ง 'CPF & KASETPHAND RUN FOR CHARITY 2024' มอบรายได้แก่ 4 โรงพยาบาล ใน จ.พระนครศรีอยุธยา
ซีพีเอฟ คว้า 2 รางวัล Excellence Awards 2024 เป็นเลิศด้านการตลาด-ด้านสินค้าและบริการ
ดีเอสไอ คุมตัว ‘สามารถ-แม่’ ยื่นฝากขังอศาลอาญา ด้านแม่ ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ลั่นถูกกลั่นแกล้ง
สุดชื่นมื่น จัดงานวิวาห์ LGBTQ สวมใส่ชุดผ้าพื้นเมืองที่ตัดเย็บกันเองจากความรัก
ฟ้าเปิด น้องรดาข้าวไข่เจียว 15 บาท ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่สนับสนุน ทั้งมอบทุนการศึกษาและเหมาข้าวไข่เจียวสัญญาจะตั้งใจเรียนหนังสือไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังที่ช่วย
"ออกแบบ ชุติมณฑน์" คว้ารางวัลนำหญิงยอดเยี่ยม International Emmy Awards
กองเรือยุทธการ ต้อนรับ ทัพเรือรัสเซีย
ผัวลูก ปะทะ ผัวแม่ มีดแทงกันเจ็บคู่
"ไอซ์ รักชนก" มาตามนัด ฟังคำวินิจฉัยศาลพิจารณาคำร้องขอถอนประกันตัวคดี 112
ส่องเลขเด็ด เหลือมยักษ์บุกบ้านนายทหารเรือยามดึก เชื่อนำพาโชค

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น