วันที่6 ก.ย. 2564 ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้มีมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีมาตรการเยียวยา ดูแลประชาชนกลุ่มภาคแรงงาน ผู้ประกอบการ และภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถกลับมาฟื้นฟูและเปิดประเทศได้โดยเร็ว นั้น หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังได้รับข้อร้องเรียนจากสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ถึงสภาพปัญหาการดำเนินธุรกิจในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพากำลังแรงงาน ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจ
โดยได้มีหนังสือข้อเสนอเป็นการเร่งด่วนไปยังนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ขยายมาตรการช่วยเหลือการหักเงินสมทบประกันสังคมต่อไปอีก 3 เดือน (ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2564) หรือจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดีขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและประคองการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ข้อเสนอขยายมาตรการช่วยเหลือการหักเงินสมทบประกันสังคมต่อไปอีก 3 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 มีความสำคัญมากที่จะประคองผู้ประกอบการ นายจ้าง ลูกจ้าง ให้ก้าวพ้นวิกฤตโควิด-19 ในระยะเร่งด่วนนี้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอขอบคุณคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ที่ได้นำข้อเสนอของหอการค้าไทย เรื่อง มาตรการด้านแรงงานในสถานการณ์โควิด-19 ที่ได้นำเสนอต่อกระทรวงแรงงาน โดยได้ออกเป็นมาตรการที่สำคัญ อาทิ
1)มาตรการเชิงรุกในการตรวจคัดกรองความเสี่ยงแรงงานทั้งคนไทยและต่างด้าว
2)มาตรการเร่งรัดจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตน
3)มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนและนายจ้างได้รับความช่วยเหลือในพื้นที่ 29 จังหวัด
4) มาตรการ Factory Sandbox
5) มาตรการผ่อนผันให้แรงงานข้ามชาติ 3 สัญชาติ กลุ่มมติ 20 สิงหาคม 2562 และกลุ่มมติ 4 สิงหาคม 2563 ให้สามารถทำงานต่อในราชอาณาจักรไทยได้
6) มาตรการลดหย่อนการส่งเงินสมทบประกันสังคมของนายจ้าง ลูกจ้างกลุ่มผู้ประกันตน ตั้งแต่มีนาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการจ้างงานจากการได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทั้ง ยังช่วยผู้ประกอบการบรรเทาภาระด้านสาธารณสุขของแรงงานและผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง หรือเกิดความเสียหายในระบบธุรกิจน้อยที่สุดเพื่อรักษาไว้ซึ่งการจ้างงานในประเทศ