ซวยแล้ว “เรืองไกร” ยื่นกกต.ชงศาลรธน.ฟัน “หมออ๋อง” บุกทำเนียบ พ้นสถานะ สส.หรือไม่

ซวยแล้ว "เรืองไกร" ยื่นกกต.ชงศาลรธน.ฟัน "หมออ๋อง" บุกทำเนียบ พ้นสถานะ สส.หรือไม่

นายเรืองไกร ลีกิจ​วัฒนะ​ กล่าวว่า เห็นข่าวเรื่องนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภาผู้แทนราษฎร บุกทำเนียบรัฐบาล จนมีการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายไปคนละทิศละทาง โดยไม่ได้อ้างอิงบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 มติคณะรัฐมนตรี

นายเรืองไกร กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว พบว่า นายปดิพัทธ์ ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2567 แล้ว และก่อนหน้านั้นได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวม 2 ฉบับ คือ หนังสือที่สภาผู้แทนราษฎร ที่ สผ 0001.03/18 ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 และหนังสือที่สภาผู้แทนราษฎร ที่ สผ 0001.03/26 ลงวันที่ 21 ก.พ. 2567 ด้วย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องนี้จึงควรพิจารณาถึงหน้าที่และอำนาจของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 9 ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 ที่ได้มีมติรับทราบแนวทางป้องกันการก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่และการบริหารงานบุคคลในราชการพลเรือน ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ

นายเรืองไกร กล่าวว่า ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1012.3/152 วันที่ 23 พ.ย. 2566 ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบนั้น หน้า 4 ข้อ (2.2) ระบุว่ากรณีสงสัยว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาผู้ใดใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา กระทำการอันมีลักษณะเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่หรือการบริหารงานบุคคลของข้าราชการพลเรือน ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามมาตรา 185 (1) และ (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และอาจเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาผู้นั้น สิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (7) หรือมาตรา 111 (7) แล้วแต่กรณี ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องแจ้งต่อผู้มีหน้าที่เพื่อดำเนินการให้มีการวินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่ ตามนัยมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ต่อไป”

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ยังไม่พบว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 หรือไม่ อย่างไร ดังนั้น ตนจึงมีเหตุอันควรทำหนังสือไปถึง กกต. แทน เนื่องจาก มาตรา 82 วรรคสี่ ให้อำนาจ กกต. ตรวจสอบการกระทำดังกล่าวได้ด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้ (2 มี.ค.)​ ตนจึงได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบและพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามออกหนังสือไปถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ฉบับและการเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ดังกล่าว เข้าข่ายขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 9 หรือไม่ และเข้าข่ายอันควรสงสัยตามข้อ (2.2) ตามหนังสือของสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1012.3/152 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายจะทำให้สมาชิกภาพของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) เพราะเข้าข่ายกระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 185 (1) หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อิหร่านเตือนอาจขยายโครงการนิวเคลียร์
โป๊ปเรียกร้องสอบอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ชาวบ้านสุดทน ยื่นหนังสือต่อ สว.สุรินทร์ จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหากองดิน 2 แสนคิวที่ขุดลอกกองไว้ ทับถมที่นาชาวบ้านเสียหาย ออกไปทำประโยชน์
NGO มาเลเซียรณรงค์ปล่อยตัวสตรีข้ามเพศชาวไทย
ผู้นำสหรัฐฯ-จีนเห็นพ้องให้คนคุมนิวเคลียร์ ไม่ใช่ AI
ย้อนพฤติกรรม “เจ๊พัช” รีดเงินบอส “ดิ ไอคอน” จนนำมาสู่การออกหมายจับ 2 ข้อหาหนัก
ชาวนาชัยภูมิระทม เกิดฝนหลงฤดูถล่มข้าวเปลือกตากไว้เปียกน้ำเสียหาย เกษตรกรชาวนาที่เกี่ยวข้าว ต้องหาที่ตากให้แห้งก่อนข้าวจะแตกหน่อ
ผู้ต้องหา ฆ่าตัดนิ้ว "แม่ยายอัยการ" เปิดปากรับสารภาพ ด้านตร.ไม่ปักใจเชื่อ เตรียมทำแผนวันนี้
ทนายบอสพอล เตรียมเข้าแจ้งความ “เจ๊พัช-ฟิล์ม รัฐภูมิ” ปมเรียกเงิน 20 ล้าน ภายในสัปดาห์นี้
สุดปัง “สับปะรดห้วยมุ่น” ผลไม้ไทยรายการแรก ขึ้นทะเบียน GI ญี่ปุ่น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น