“สว.อุปกิต” มั่นใจความบริสุทธิ์ ศาลนัดตรวจพยานคดีสมคบค้ายาเสพติด จ่อฟ้องกลับคนใส่ร้าย

"สว.อุปกิต" มั่นใจความบริสุทธิ์ ศาลนัดตรวจพยานคดีสมคบค้ายาเสพติด จ่อฟ้องกลับคนใส่ร้าย

นายอุปกิต ปาจารียางกูร สมาชิกวุฒิสภา เดินทางมาศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ตามนัดตรวจพยานหลักฐาน ในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน ร่วมกันเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด รวม 6 ฐานความผิด

 

"สว.อุปกิต" มั่นใจความบริสุทธิ์

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย นายอุปกิต เปิดเผยก่อนขึ้นไปห้องพิจารณาคดี ว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ และจำเลยในคดี ซึ่งเลื่อนมาเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตนเองก็ขอยืนยันความบริสุทธิ์ ดูอย่างคดีทุน มินหลัด ที่ศาลได้ยกฟ้องจำเลยทุกข้อกล่าวหา ทั้ง 32 ข้อกล่าวหา โดยศาลพิจารณาแล้วว่าหลักฐานของจำเลยสามารถหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ทั้งหมด สรุปง่ายๆ ว่า ศาลได้กรุณาพิจารณาแล้วว่าทั้ง 4 คน รวมทั้งบริษัท ไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด / การฟอกเงิน และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเลยได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างมาก

 

ขณะเดียวกัน ยังมีช่วงหนึ่งของคำวินิจฉัยของศาลที่ระบุว่า พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนผิดทิศทาง จึงทำให้จำเลยถูกดำเนินคดี ซึ่งต้นเรื่องคือ 4-5 คน ยังไม่มีความผิด และตนเองได้ขายธุรกิจออกไปจากบริษัทตั้งแต่ปี 2562 ก่อนมาเป็นวุฒิสมาชิก ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังคงต้องขึ้นศาลต่อสู้คดี  ในส่วนของคดีที่ได้ยื่นฟ้องพนักงานสอบสวนไว้ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นั้น แม้ศาลชั้นต้นจะยกฟ้องไปแล้ว แต่ก็จะใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์คดี เพราะชัดเจนแล้วว่า กลุ่มพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนผิดทิศทาง จึงทำให้กลุ่มจำเลยถูกกล่าวหา และถูกควบคุมตัว

ส่วนคนที่กล่าวหาตนเอง ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นสิทธิ์ของตนเอง และฝากบอกกับสังคมว่า คดีนี้มีความชัดเจนมาก มีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำที่ผิดปกติ เชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะทางการเมือง หรือกระบวนการกลางน้ำ ที่ตนเองเคยตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้ ว่า มีอดีตอัยการสูงสุดผู้หญิงท่านหนึ่ง ที่ตนเองได้ร้องขอความเป็นธรรมไปหลายรอบ แต่ก็ไม่มีการพิจารณาในประเด็นที่ว่า มีหลายร้อยบริษัทที่โอนเงินผ่าน Money Changer ในลักษณะของการทำธุรกิจในช่วงที่ด่านปิด และในที่สุดท่านก็เซ็นสั่งฟ้องตนเองด้วยข้อหากล่าวหาร้ายแรง ถึง 6 ข้อหา ก็ไม่ทราบว่าใครจะรับผิดชอบต่อชื่อเสียง และการที่ทั้ง 4 คน ต้องไปติดคุกเป็นเวลานาน ถึง 1 ปี 4 เดือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น