ผวาจัด ศาลนัดเชือดคดี 112 “เก็ท โสภณ” ปราศรัยพาดพิงเบื้องสูง ชาวเน็ตขย่มซ้ำ งานนี้ไม่รอดแน่

“เก็ท โสภณ” ขาสั่นแล้ว ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี ม.112 #ม็อบทัวร์มูล่าผัว พาดพิงพระราชินี ชาวเน็ตขย่มซ้ำ งานนี้ไม่รอดแน่

ผวาจัด ศาลนัดเชือดคดี 112 “เก็ท โสภณ” ปราศรัยพาดพิงเบื้องสูง ชาวเน็ตขย่มซ้ำ งานนี้ไม่รอดแน่    Top News รายงาน

 

 

เก็ท โสภณ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ถึงคิวเชือดอีกหนึ่งคนแล้ว สำหรับแกนนำ 3 นิ้ว “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง แกนนำกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว โดยในวันที่ 5 มี.ค.นี้ เวลา 9.00 น. ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีของ “เก็ท” โสภณ ผู้ถูกกล่าวหาในคดี “หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีปราศรัยในม็อบทัวร์มูล่าผัว ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 22 เม.ย.65

 

 

ทั้งนี้ม็อบทัวร์มูล่าผัว เกิดขึ้นในวาระครบรอบ 240 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ โดยกลุ่ม “มังกรปฏิวัติ” ได้จัดกิจกรรมทริปเที่ยวหนึ่งวัน ตามสถานที่สำคัญรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ และไหว้พระ ทำบุญ ขอพร ขอผัว ขอเมีย กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คดีนี้มีการสืบพยานในระหว่างวันที่ 4-7 ก.ค.66 นายเก็ทยืนยันต่อสู้ว่า การกระทำของตนไม่เป็นความผิดตามมาตรา 112 เป็นการด่าตํารวจ ไม่ใช่ด่าพระมหากษัตริย์ หรือพระราชินี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.สําราญราษฎร์ ใช้กําลัง และไม่เจรจาพูดคุยด้วยดีกับประชาชน และนายเก็ทก็ไม่ได้เป็นผู้จัดกิจกรรมดังกล่าว โดยโจทก์นำพยานเข้าเบิกความรวม 11 ปาก ในขณะที่ฝ่ายจำเลย นำพยานเข้าเบิกความ 2 ปาก

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ส.ค.66 ศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีนี้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป มาตรา 112 ลงโทษจำคุก 3 ปี และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ มาตรา 4 ประกอบมาตรา 9 ลงโทษจำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 6 เดือน

 

 

 

 

ในวันดังกล่าว ทนายความได้ยื่นขอประกันตัวนายเก็ท ในระหว่างอุทธรณ์ แต่ศาลอาญามีคำสั่งส่งคำร้องขอประกันตัว ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา แต่ศาลไม่ให้ประกัน เพราะเกรงว่าจะหลบหนี ทำให้นายเก็ท ถูกนำตัวไปควบคุมยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที จนถึงปัจจุบันนายเก็ทถูกคุมขังมาเป็นเวลา 193 วันแล้ว

 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ต.ค.66 ทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีนี้ ในข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย 6 ประเด็น อาทิ อ้างว่า การกระทำของจำเลย เป็นการด่าตำรวจ ไม่ใช่ด่าพระมหากษัตริย์หรือพระราชินี

 

 

โดยมีข้อความว่า “ก็เพราะมวลชนของพวกเราจะไปผ่านเสด็จ จะไปผ่านขบวนที่พระราชินี จะไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่ภูเขาทอง” และข้อความทำนองว่า ต่อให้ทําบุญ 100 วัด บารมีก็ไม่สูงขึ้น เป็นข้อความที่ไม่ต่อเนื่องกัน และเป็นประโยคที่ขาดจากกัน โดยสาเหตุที่มีการเอ่ยพระนาม “พระราชินี” มาจากกรณีที่ตำรวจอ้างว่า มีขบวนเสด็จ โดยอ้างพระนามของพระราชินี ซึ่งไม่ได้เกี่ยวโยงกับประโยคที่จำเลยพูดด่าตำรวจว่า บารมีไม่สูงขึ้นแน่นอน แม้จะทำบุญกี่วัด

 

 

ข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่า ขณะนั้นประชาชนมีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นกรณีที่กำลังปะทะกับตำรวจและมีการด่าทอตำรวจอยู่ เนื่องจากตำรวจขัดขวางกิจกรรมทัวร์ประวัติศาสตร์ โดยอ้างถึงขบวนเสด็จ และเอ่ยอ้างพระนามของพระราชินี

 

 

ประเด็นที่ 2 ผู้กล่าวหา คือ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศปปส. เบิกความมีพิรุธ และมีความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับจำเลยอยู่แล้ว

 

ประเด็นที่ 3 เจ้าพนักงานตำรวจไม่ได้ตรวจสอบอย่างชัดแจ้ง ไม่ได้ค้นหาความจริงเพื่อพิสูจน์ความผิด หรือความบริสุทธิ์ของจำเลย

ประเด็นที่ 4 โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า จำเลยกล่าวถึงใคร พยานผู้เชี่ยวชาญและพยานแวดล้อม ไม่มีใครทราบเหตุการณ์จริง

ประเด็นที่ 5 โจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ และการลงโทษจำคุก 6 เดือน เป็นการลงโทษเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

และประเด็นที่ 6 หลักการในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะปราศจากข้อสงสัยใดๆ ดังนั้นจะลงโทษทางอาญาต่อบุคคล โดยยังมีข้อสงสัยไม่ได้

ข้ออ้างและพยานหลักฐานของโจทก์ ที่มาฟ้องต่อจําเลยนี้ไม่มีมูล ข้อกล่าวหาของโจทก์ในคดีนี้ ไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ความจําเลย ยังขาดหลักฐานยืนยันที่แน่ชัด ประกอบกับมีข้อพิรุธเป็นอย่างมาก การที่ศาลอาญาเอาเพียงถ้อยคําว่า มีพระนามของพระราชินีสุทิดามาวินิจฉัยว่า หมายถึงพระมหากษัตริย์ พระราชินี จึงเป็นการวินิจฉัยที่คลาดเคลื่อน และไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคดี

 

 

งานนี้ทำเอาชาวเน็ตคอมเมนต์เดือด เช่น

 

-แหม..ช่างพูดมาได้นะ ว่าเด็กๆ จริงใจต่อประเทศชาติ และพร้อมที่จะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ขอถามหน่อย เด็กๆเนี่ยทำเพื่อใครกันแน่ ประเทศชาติมีสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นความมั่นคงของประเทศชาติอยู่แล้ว แล้วเด็กๆจะมาด้อยค่า จะมาวุ่นวายกับสถาบันฯกันทำไม? เพื่ออะไร? และเพื่อใครกันแน่? ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้โง่ หลงวาทกรรมหลอกๆแบบน้ำผึ้งเคลือบยาพิษนะ

 

-มีพ่อแบบนี้ ลูกถึงได้โตมาเป็นคนแบบนี้ละนะ

-หลังจากที่ผมฟัง พ่อของ เก็ท โสภณ พูด นี่ก็ 3 นิ้วจ๋าเลยแน่นอน

 

-พ่อตื่นได้แล้วอย่าเห็นแก่ตัวจนไม่ฟังอะไรนะ

-พ่อจะโวยวายไปทำไมในเมื่อพ่อลูกอุดมการเดียวกัน ต้องบอกลูกสิว่า อดอาหารให้ถึงที่สุด อย่ายอมแพ้แม้แต่ก้าวเดียว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น