วันนี้ (7 ก.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม การประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแบบเต็มคณะ หลังจากที่นายกฯสั่งให้มีการประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ต้นเดือนเมษายน 64 และถือเป็นครม.แบบเต็มคณะเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาหลังผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่ามกลางกระแสข่าวนายกฯอาจจะมีการปรับครม.หลังจากนี้หรือไม่
โดยวาระการประชุมครม.ที่น่าจับตา คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นสมควรให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3 ประเภท ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบล, กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ซึ่งทั้งหมดได้ครบวาระการดำรงตำแหน่งทั่วประเทศแล้ว ในเดือน พ.ค. 2561 โดยที่สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าว ยังคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และประกาศ คสช. ที่เกี่ยวข้อง
ด้าน กกต. มีหน้าที่กำกับดูแล และออกกฎหมาย รวมถึงระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดย กกต. ดำเนินการไปเรียบร้อยหมดแล้ว
ซึ่งทางพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่าย กกต. พร้อมสำหรับจัดเลือกตั้งท้องถิ่นทุกประเภท และเคยหารือกับกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว ส่วนจะเคาะวันเลือกตั้งเป็นวันไหนบ้าง คงต้องรอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 142 เพื่อครม.ดำเนินการไปสู่การออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งต่อไป โดยในการประชุมครม.วันนี้ ตนจะเข้าไปชี้แจงและร่วมประชุมกับคณะรัฐมนตรีด้วย โดยกระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอกรอบวันการเลือกตั้ง อยู่ในช่วงปลายเดือน28 พ.ย.หรือไม่เกิน 31 ธ.ค.64
ขณะที่ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตน มาตรา 33 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ในรอบที่ 2 ว่าภายในวันที่ 7 ก.ย. นี้ กระทรวงแรงงานจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 อีกคนละ 2,500 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับเงินที่จ่ายงวดแรกไปเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา คนละ 2,500 บาท ผู้ประกันตน มาตรา 33 จะได้เงินเยียวยารวมเป็นเงิน 5,000 บาท โดยคาดว่าจะได้รับเงินเยียวยาหลังจากประชุม ครม.อนุมัติ หรือภายในเดือน ก.ย. นี้แน่นอน
สำหรับการเยียวยาผู้ประกันตน มาตรา 33 คนละ 2,500 บาท ในรอบที่ 2 นั้น จะได้รับเฉพาะ 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มตามประกาศ ศบค. เท่านั้น เนื่องจากทั้ง 13 จังหวัด ถูกสั่งปิดกิจการ/กิจกรรม หรือล็อกดาวน์ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือน ก.ค. – ส.ค. เป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ดังนั้นในส่วนของผู้ประกันตน มาตรา 33 ในพื้นที่ 16 จังหวัดสีแดงเข้ม ที่เพิ่งถูกสั่งปิดกิจการ/กิจกรรม ทีหลังในช่วงเดือน ส.ค. จึงไม่ได้สิทธิรับเงินเยียวยาในรอบที่ 2
ทั้งนี้ ในการจ่ายเยียวยาให้กับผู้ประกันตน มาตรา 39 และมาตรา 40 คนละ 5,000 บาท ก็จะใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน คือ หากผู้ประกันตน มาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 13 จังหวัดสีแดงเข้ม จะได้รับเงินคนละ 5,000 บาท ครั้งที่ 2 ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 16 จังหวัด จะไม่ได้สิทธิดังกล่าว
สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตน มาตรา 33 จำนวน 2,500 บาทต่อคน ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 จำนวน 5,000 บาทต่อคน ใน 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ครั้งที่ 2 หลังจาก ครม. มีมติรับทราบแล้ว ขั้นตอนต่อไปกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จะโอนเงินเข้าไปที่ สปส. เพื่อดำเนินการจ่ายให้กับผู้ประกันตนที่มีสิทธิโดยเร็วที่สุด แต่ไม่เกินเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งจะเป็นการทยอยจ่ายเงินตามลำดับเลขที่บัตรประชาชนเช่นเดียวกับการจ่ายในครั้งแรก