อัลชายา กรุ๊ป (Alshaya Group) กลุ่มบริษัทครอบครัวมีสำนักงานในคูเวต ที่ถือสิทธิ์แฟรนไชส์แบรนด์ตะวันตกหลายแห่ง รวมถึงสตาร์บัคส์ ออกแถลงการณ์ยอมรับว่า ได้เริ่มลดจำนวนพนักงานบางส่วนในสาขาแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง อันเป็นผลจากเงื่อนไขทางการค้าที่เผชิญมาตลอด 6 เดือน จนมาถึงจุดจำเป็นต้องตัดสินใจที่เศร้าและยากลำบาก
บริษัทฯ ปฏิเสธตอบคำถามจำนวนพนักงานที่กำลังเลิกจ้าง แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ส ที่รายงานเรื่องนี้เป็นสำนักข่าวแรก ให้ตัวเลขที่กว่า 2 พันคน จำนวนมากเป็นชาวต่างชาติที่มาจากประเทศในเอเชียด้วยกัน
อัลชายา กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกเจ้าใหญ่ที่สุดในภูมิภาค บริหารร้านสตาร์บัคส์ราว 1,900 สาขาใน 13 ประเทศตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และเอเชียกลาง ว่าจ้างงานพนักงานมากกว่า 1 หมื่น 9 พันคน
นับจากสงครามในกาซ่าเปิดฉากเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว สตาร์บัคส์ เป็นหนึ่งในแบรนด์ตะวันตกที่ตกเป็นเป้าบอยคอตจากนักเคลื่อนไหวที่เห็นใจชะตากรรมชาวปาเลสไตน์ บริษัทพยายามอย่างมากที่จะตอบโต้กับข้อมูลที่บริษัทระบุว่า เป็นข้อมูลเท็จและชี้นำผิด ๆ แพร่ในโลกออนไลน์ โดยยืนยันว่า สตาร์บัคส์ไม่มีวาระทางการเมืองใด ๆ และไม่ได้ใช้ผลกำไรไปสนับสนุนรัฐบาลหรือปฏิบัติการของกองทัพไม่ว่าที่ไหนในโลก
รายได้สตาร์บัคส์ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 9,430 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ต่ำกว่าที่คาดการณ์กันว่าน่าจะแตะ 9,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระแสบอยคอต