“ดร.อานนท์” แฉเล่ห์กัมพูชา หวังฮุบ “เกาะกูด” ดักคอคนคิดขายชาติ เจอโทษหนักแน่
ข่าวที่น่าสนใจ
ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่คนไทยให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ทางทะเลกับกัมพูชา บริเวณเกาะกูด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีนักวิชาการหลายคนออกมาประสานเสียงว่า เกาะกูดเป็นของไทย และเป็นมานานมากแล้วด้วย พร้อมงัดหลักฐานทางประวัติศาสตร์มายืนยัน
ล่าสุดผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า โพสต์ข้อความถึงประเด็นร้อนนี้ โดยระบุว่า เล่ห์กลของกัมพูชา ในการเจรจาปักปันเขตแดน ผมยังยืนยันตามคุณลุง ศาสตราจารย์ ดร. สมปอง สุจริตกุล ว่า สัญญาประธาน คือสนธิสัญญาระหว่างสยาม-อินโดจีนฝรั่งเศส ค.ศ.1907 หรือ รัตนโกสินทร์ศก 125 เกาะกูดเป็นของไทยแน่นอน ตามสัญญาประธานนี้
หลักคือ สัญญาอุปกรณ์ จะขัดแย้งกับสัญญาประธานไม่ได้เลย ไม่ได้ต่างจากรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด กฎหมายใดๆ จะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ สัญญาใดๆ ที่ตามหลังมาจากสัญญาประธาน เรียกว่าสัญญาอุปกรณ์ ไม่ว่าจะ Term of reference / MOU / PA หรือ JC ต่างก็เป็นสัญญาอุปกรณ์ จะขัดแย้งกับสัญญาประธานไม่ได้โดยเด็ดขาด
นายพลลอนนอล ในปี 2515 ประกาศเส้นเขตแดน ล้ำเข้ามาในไหล่ทวีปของไทย ผ่ากลางเกาะกูดไปอย่างน่าประหลาดเหลือเชื่อ ขัดกับสัญญาประธาน ระหว่างสยาม กับอินโดจีนฝรั่งเศศ ร.ศ.125 อย่างแน่นอน และไม่เป็นไปตามอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982 ที่ประหลาดมากคือ ลากเส้นจากหลักเขตแดนบนบก หลักที่ 73 บ้านหาดเล็ก พาดตรงไปบนยอดเขาที่สูงสุดบนเกาะกูด เฉือนเกาะกูดเป็นสองฝั่ง ได้ทะเลในอ่าวไทยไปมากมาย ที่เอามาเคลมกันทีหลังว่า เป็นพื้นที่ทับซ้อน หรือพื้นที่พัฒนาร่วมกัน ซึ่งไม่มีอยู่จริง
ที่ว่าขัดกฎหมายระหว่างประเทศคือ ขีดเส้นโดยใช้ equidistant line (อี ควิ ดิสแท้น ไลน์) ซึ่งตามหลักสากลแล้ว จะต้องไม่พาดผ่านเกาะกูด แล้วไทยต้องได้พื้นที่ทางทะเลรอบเกาะกูด จะได้ไปกี่ไมล์ทะเล ก็อาจจะเจรจากันได้
จอมพลถนอม กิตติขจร กับจอมพลประภาส จารุเสถียร ได้แก้ไขปัญหานี้ โดยพึ่งพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ทรงมีประกาศพระบรมราชโองการ เกี่ยวกับไหล่ทวีปของไทย ในปี 2516 และจอมพลถนอม ได้ให้กองทัพเรือไทย เข้าไปดูแลพื้นที่ในทะเลดังกล่าวไม่ให้กัมพูชามารุกรานอธิปไตยทางทะเลของไทย
MOU44 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ก็เกิดขึ้น กลายเป็นไปยืนยันเส้นเขตแดนที่ผิด ในปี 2515 ที่ลอนนอลประกาศ แต่ก็รู้ดีว่า MOU44 เป็นสัญญาอุปกรณ์ ไม่ใช่สัญญาประธานจะขัดแย้งสัญญาประธานไม่ได้ กัมพูชาเลยเจรจาตาม MOU44 ในปี พ.ศ.2545 ลากเส้นในแนวใกล้เคียงกับแนวเดิม ที่นายพลลอนนอลเคยประกาศเอาไว้ ในปี 2515 แต่ลากเส้นอ้อมเป็นวงกลมรอบเกาะกูด เพื่อให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนมากที่สุด แต่เลี่ยงบาลีไม่ให้ขัดกับสัญญาประธาน เพราะเกาะกูดเป็นของไทย
ที่ตลกคือ ลากเส้นปักปันเขตแดนเป็นเส้นโค้งรอบเกาะกูด หลบสัญญาประธาน แต่จะกินที่เข้าไปในอ่าวไทยให้มากที่สุด ไม่ได้ยึดถือ equidistant line (อี ควิ ดิสแท้น ไลน์) ระหว่างสองประเทศตามหลักสากล ของอนุสัญญาทะเล 1982 หรือกฎหมายสากล ผมได้แนบภาพแผนที่ แสดงผลการเจรจาปักปันเขตแดนทางทะเลของไทยกับกัมพูชา ในพ.ศ.2545 ภาพนี้มาจากพาวเวอร์ พอยท์ ประกอบการบรรยายของพลเรือโทศิริชัย เนยทอง ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว แต่เคยรับราชการที่กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ซึ่งมีภารกิจในการดูแลเขตแดนทางทะเลของไทยโดยตรงครับ
เห็นภาพแล้วผมก็ได้แต่หัวเราะว่า กัมพูชา พยายามเคลมมาก แต่เลี่ยงบาลี ไม่ให้ขัดกับสัญญาประธาน ร.ศ.125 ยกเลิก MOU44. และ JC 44. เถิดครับ อย่าให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดนไป แม้แต่ตารางนิ้วเดียว ถ้าไอ้อีนักการเมืองไหน จะขายชาติ ทำ MOU67 หรือ JC67 มันจะไม่มีแผ่นดินอยู่ และต้องถูกประหารชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง!!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง