“ก้าวไกล” ดิ้นสู้เฮือกสุดท้ายคดีล้มล้างนับถอยหลังโดนยุบพรรค

ผ่าเกม "ก้าวไกล" ลุยตรวจสอบตัดอำนาจ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ดิ้นเฮือกสุดท้ายนับถอยหลังโดนยุบพรรค

เหมือนระเบิดเวลานับถอยหลังถูกยุบพรรค จากนี้ไปจึงน่าจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ”พรรคก้าวไกล” ล่าสุด “นายชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอญัตติด่วน ขอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาขอบเขตอำนาจศาลรัฐธรรมนูญและขอบเขตอำนาจนิติบัญญัติ สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้มีคำวินิฉัยคดีล้มล้างการปกครองเด็ดปีก “พรรคก้าวไกล” จนมีคำวินิฉัยฉบับเต็มประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา คอการเมืองต่างพากันตั้งข้อสังเกตทันทีว่า แนวทางของ “พรรคก้าวไกล” เป็นการดิ้นสู้เฮือกสุดท้ายก่อนจะถูกยุบพรรคในไม่ช้านี้

“นายชัยธวัช” อ้างว่าทำไมต้องตรวจสอบอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง การเสนอร่างกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นฉบับใด เป็นอำนาจของ สส.ตามกระบวนการนิติบัญญัติ หรือแม้แต่การเสนอร่างกฎหมาย มาตรา 112 ไม่ใช่การใช้สิทธิหรือเสรีภาพ ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 จนนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกลในไม่ช้านี้ และ เป้าประสงค์ของพรรคก้าวไกล ต้องการนำผลการศึกษาดังกล่าว ไปสู่ข้อเสนอในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับขอบเขตอำนาจของศาลธรรมนูญมากขึ้น ยกตัวอย่าง ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า การเสนอร่างกฎหมาย เป็นอำนาจของรัฐสภาฝ่ายนิติบัญญัติ หากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อยากตรวจสอบความชอบรัฐธรรมนูญ ก็ควรตรวจสอบความชอบรัฐธรรมนูญตามขั้นตอนที่รัฐรัฐธรรมนูญกำหนดไว้เป็นการเฉพาะอยู่แล้ว คือ หลังจากที่ร่างกฎหมายผ่าน ก่อนที่จะประกาศใช้ ซึ่งอาจนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ให้มีความชัดเจนว่า ให้ยกเว้นอะไรบ้าง มากกว่านั้นอาจนำไปสู่การแก้ไขมาตราที่เกี่ยวข้องกับศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดการเสียสมดุลในการตรวจสอบถ่วงดุลกับสถาบันทางการเมืองต่างๆ

อาการดิ้นเฮือกสุดท้ายของพรรคก้าวไกล อาจเป็นผลพวงจากก่อนหน้านี้ บรรดานักร้องตัวตึง อาทิ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร , นายเรืองไกร ลีกิจวัฒน และ นายสนธิญา สวัสดี หรือแม้แต่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ออกมาขย่มรายวัน เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เร่งปิดเกมเร็วยุบพรรคก้าวไกล ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล มีลักษณะเจตนาซ่อนเร้นที่จะทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง พร้อม ๆ กับกระทุ้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อไรจะตรวจสอบและเอาผิดจริยธรรม 44 สส.พรรคก้าวไกลที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปตลอดชีพ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ “นายธีรยุทธ” เคยกล่าวว่า นอกจากการติดตามเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 แล้ว ขณะนี้ยังติดตามความพยายามในการผลักดันความผิดตามมาตรา 112 ให้ไปอยู่ในกฏหมายนิรโทษกรรม เนื่องจากเห็นว่า ความผิดตามมาตรา 112 ไม่ใช่ความผิดในทางการเมือง แต่เป็นความผิดเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง ซึ่งอยู่คนละหมวดกัน เมื่อศาลวินิจฉัยว่าการกระทำลักษณะ 112 ภายนอกสภา มีผู้รับทอดเข้ามาสู่สภา โดยผ่านกระบวนการซ่อนเร้น ใช้การเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าสู่สภา ซึ่งการรณรงค์มาตรา 112 การตั้งม็อบ การตั้งขบวนต่างๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อเจตนาต้องการทำลายการปกครองก็เท่ากับว่า มีเจตนาที่ไม่ดี มีเจตนาที่จะไม่ให้การเมืองมีอยู่

ดังนั้นการที่จะกล่าวอ้างว่าเป็นข้อขัดแย้งทางการเมือง ตนมองว่าไม่ใช่ เมื่อคุณ พรรคก้าวไกล ทำลายการปกครอง ไม่ให้การเมืองมีอยู่ ข้อขัดแย้งก็จะไม่มีอยู่ตามมาด้วย แต่คณะนิติบัญญัติที่กำลังพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในชั้นกรรมาธิการกำลังมองว่า การปกครองยังมีอยู่ ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจกันในทางการเมืองก็เลยยังมีอยู่ หากประสงค์ที่จะล้างความขัดแย้ง ปลดปล่อยความวิตกกังวลต่างๆ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ซึ่งต่างกับคณะรณรงค์ 112 ตนจึงเห็นว่าหากได้มีการบรรจุความผิดมาตรา 112 เข้าสู่กฎหมายนิรโทษกรรม ตนจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด

ยิ่งล่าสุดพรรคก้าวไกล ยอมกลับลำอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 น่าจะเป็นวันที่ 3 – 5 เมษายนนี้
ซึ่ง “นายชัยธวัช” ให้ข้อมูลถึง ประเด็นที่จะอภิปรายหลังจากรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินมากว่า 6 เดือน แต่ไม่ได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ซ้ำยังเพิกเฉยต่อการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ไม่มีการขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งคนไทยและต่างประเทศ เอารัดเอาเปรียบประชาชน ปล่อยให้ข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ รีดนาทาเล้นประชาชน หลักนิติธรรมถูกทำลายโดยการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม การอภิปรายครั้งนี้จะเรียงตามหมวดหมู่ประเด็นที่ใกล้เคียง พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการเจรจาต่อรองกับรัฐบาล

สิ่งที่คอการเมืองต้องเกาะติดขอบสังเวียน “พรรคก้าวไกล” ยังจะอยู่ถึงวันนั้นหรือไม่ และหากยังไม่ถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญลงดาบ 2 ยุบพรรค แต่ยังอยู่จนถึงวันซักฟอกรัฐบาลได้จริงตามที่พรรคก้าวไกลประกาศจะซักฟอกในประเด็นต่าง ๆ ข้างตน เชื่อได้เลยว่า ฝ่ายแค้นที่อยู่ในฟากพรรคร่วมรัฐบาล จะงัดคดีล้มล้างการปกครองฯสารตั้งต้นยุบพรรคก้าวไกล ถล่มกลับพรรคก้าวไกลเช่นกัน งานนี้จะได้รู้กันไป ใครกันแน่จะเละตุ้มเปะคาสภากลางสังเวียนเวทีซักฟอกกันแน่
/-/-/

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผบก.ภ.ปทุมฯ ยันแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา "พีช บีเอ็ม" แค่เบื้องต้น เร่งสอบสภาพรถ คำให้การลุงป้า นำพิสูจน์ฟ้องผิด
นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ เจ้าของฉายา "สิงห์สนามศุภฯ" เสียชีวิตแล้วในวัย 77 ปี
"กองทัพบก" เสียใจ สูญเสีย "พ.อ.พิฆราช" นายทหารจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกู้ภัยเหตุตึกสตง.ถล่ม ตั้งแต่ 28 มี.ค.จนนาทีสุดท้าย ไม่เคยหยุดภารกิจ
อย่าหลงเชื่อ "คลิปวัดร่องขุ่นถล่ม" ว่อนโซเชียลฯ "อ.เฉลิมชัย" ลั่น AI มันร้าย
"ไพศาล" เผย "อนุทิน" พูดเองภท.ไม่มีปัญหาร่วมรัฐบาล ยังสนิทแน่นแฟ้น "ทักษิณ"
"ท็อป วราวุธ"นำประชุมพรรคชาติไทยพัฒนา เผยยึดคำพ่อบรรหาร เน้นทำงานให้ปชช. สร้างพันธมิตรการเมือง
"นายกฯ" ขอบคุณทุกภาคส่วน พอใจนโยบายลดตายเจ็บ 7 วันอันตราย ลดลงกว่าปีที่แล้วกว่า 25%
"นทท.ต่างชาติ" ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล เริ่ม 1 พ.ค.นี้ ตามกฎใหม่
เปิดเทอมนี้ ครูทุกคนต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” หลังออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย
"อุตุฯ" เตือน 49 จังหวัด รับมือฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง กทม.โดนด้วย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น