“โมนูพิราเวียร์” สู้โควิด? เปิดผลวิจัย 67 เสี่ยงโดยไม่จำเป็น

โมนูพิราเวียร์ สู้โควิด? เปิดผลวิจัย 67 เสี่ยงโดยไม่จำเป็น

"โมนูพิราเวียร์" เปิดสาเหตุโลกไม่นิยมใช้สู้โควิด มีประเด็นความเสี่ยงในเรื่องของการสร้างไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็น

TOP News อัปเดต “โมนูพิราเวียร์” สู้โควิด 2567 ? ดร.อนันต์ เผยงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications มีประเด็นความเสี่ยงในเรื่องของการสร้างไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็น สาเหตุโลกไม่นิยมใช้ MoInupiravir

ข่าวที่น่าสนใจ

โมนูพิราเวียร์ เปิดสาเหตุโลกไม่นิยมใช้สู้โควิด มีประเด็นความเสี่ยงในเรื่องของการสร้างไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็น

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า

ยารักษาโควิด MoInupiravir มีกลไกการจัดการไวรัสในร่างกายโดยการเข้าไปเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมของไวรัสแบบไม่จำเพาะเจาะจง ทำให้ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงแบบไม่มีทิศทางจนไม่สามารถเพิ่มได้จำนวนได้เหมือนไวรัสปกติและไปต่อไม่ได้ในที่สุด
แต่ยังไม่เคยมีงานวิจัยวัดการเปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรมของไวรัสในระหว่างการใช้ยาจริง ๆ ออกมาให้เห็นชัดว่าเปลี่ยนไว เปลี่ยนเยอะขนาดไหน

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications ชิ้นนี้ แสดงข้อมูลออกมาชัดมากว่า ในช่วง 5 วันหลังผู้ป่วยโควิดได้รับยาตัวนี้ ไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เทียบเส้นสีม่วง (รับยา) กับ เส้นสีเทา (รักษาปกติไม่รับยา) ไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยที่ได้รับยาสามารถมีการเปลี่ยนแปลงบนสายพันธุกรรมของไวรัสได้สูงถึงเฉลี่ยกว่า 500 ตำแหน่ง กระจายทั่วทั้งสายพันธุกรรมของไวรัส

โมนูพิราเวียร์ เปิดสาเหตุโลกไม่นิยมใช้สู้โควิด มีประเด็นความเสี่ยงในเรื่องของการสร้างไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็น

ในขณะที่กลุ่มไม่รับยาแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในไวรัสเลย ที่น่าสนใจคือ หลังหยุดยา เส้นสีม่วงจะเริ่มหักหัวลงอย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่า ไวรัสตัวที่เปลี่ยนแปลงไปเยอะ ๆ หลายตำแหน่งไปต่อไม่ได้ ไม่สามารถตรวจพบในร่างกายหลังจากนั้น แต่ประเด็นที่เริ่มมีคนกังวลกันคือ เส้นสีม่วงจะตกลงมาชนกับเส้นสีเทาหลังผู้ป่วยหายจากโควิดหรือไม่ เพราะถ้าไม่ชนแสดงว่าไวรัสที่เปลี่ยนแปลงจากการใช้ยาจะเป็นไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือหลายคนเรียกว่า ไวรัสกลายพันธุ์ออกไป ซึ่งจะกลายเป็นไวรัสที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรืออาจจะเป็นไวรัสที่มีคุณสมบัติใหม่ ๆ แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้

การใช้ยา MoInupiravir จึงมีประเด็นความเสี่ยงในเรื่องของการสร้างไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็น ปัจจุบันจึงไม่มีคำแนะนำให้ใช้ยาชนิดนี้ในผู้ป่วยโควิดที่ไม่มีอาการรุนแรงแล้ว

โมนูพิราเวียร์ เปิดสาเหตุโลกไม่นิยมใช้สู้โควิด มีประเด็นความเสี่ยงในเรื่องของการสร้างไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น