“ทวี” ยก “นายกฯ” กล้าหาญค้างคืน 3 จังหวัดใต้ ตอกย้ำก้าวหน้าเรื่องสันติภาพที่แท้จริง วอนฝ่ายตรงข้ามหยุดนำวาทะกรรมมาโจมตี

"ทวี" ยก "นายกฯ" กล้าหาญค้างคืน 3 จังหวัดใต้ ตอกย้ำก้าวหน้าเรื่องสันติภาพที่แท้จริง วอนฝ่ายตรงข้ามหยุดนำวาทะกรรมมาโจมตี

“ทวี” ยก “นายกฯ” กล้าหาญค้างคืน 3 จังหวัดใต้ ตอกย้ำก้าวหน้าเรื่องสันติภาพที่แท้จริง วอนฝ่ายตรงข้ามหยุดนำวาทะกรรมมาโจมตี

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีหลังการลงพื้นที่ร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จังหวัดปัตตานีว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้กรุณาลงพื้นภาคใต้ ที่ผ่านมาเมื่อปี 2546 อดีตนายกฯ ทักษิณก็เคยลงไปนอนค้างในพื้นที่จนมาถึงนายกฯ เศรษฐา ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น สิ่งสำคัญในการลงพื้นที่ครั้งนี้พบว่าไม่มีทหารสวมเครื่องแบบมารักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น รวมทั้งไม่มีด่านตรวจเนื่องจากนายกฯ ต้องการให้เป็นการลงพื้นที่เหมือนประชาชนธรรมดาไม่ต้องรักษาความปลอดภัยหนาแน่นซึ่งนับเป็นความกล้าหาญ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนการที่ถูกตั้งคำถามว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้หลีกเลี่ยง ละเลยไม่พูดถึงเรื่องปัญหาความมั่นคง และความยุติธรรมในสามจังหวัดชายแดนใต้นั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่าทางคณะพูดคุยให้ข้อมูลว่าในยุคของนายกฯเศรษฐามีความก้าวหน้าในการพูดคุยเรื่องสันติภาพมากที่สุด การเข้าไปเยี่ยมที่มัสยิดกรือเซะซึ่งมีประวัติศาสตร์ในปี 2547 มีผู้เสียชีวิต 34 คน และเสียชีวิตหลายร้อยคนรอบมัสยิด พร้อมกับชื่นชมนายเศรษฐาว่ามีความกล้าหาญ เพราะสันติภาพคือการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขอย่างมีความหวัง ขออย่านำวาทะกรรมไปพูดให้คนแก้แค้นกัน นั่นไม่ใช่เรื่องสันติภาพ เพราะสันติภาพคือจะทำอย่างไรให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นนำความเสมอภาคความเท่าเทียมเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งเรื่องการพูดคุยสันติภาพนายกฯ แสดงให้เห็นถึงท่าทีที่สนับสนุนอย่างเต็มที่

 

 

สำหรับมาตรการความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอนนั้น การพูดคุยได้ยกวาระเรื่องเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นเดือนอันประเสริฐของพี่น้องมุสลิมทึ่จะปฏิบัติกิจทางศาสนาโดยทางรัฐได้อำนวยความสะดวกในภารกิจจึงถือว่าไม่ใช้เดือนที่น่าเป็นห่วงแต่เป็นเดือนที่ปลอดภัย ไม่มีความกังวลใจ

ขณะที่การแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้ออกนโยบายแก้ปัญหาในพื้นที่โดยเฉพาะ โดยใช้มิติของหลักศาสนา วัฒนธรรม และการพัฒนา เพราะยาเสพติดถือเป็นศัตรูของศาสนา หรือ เป็นของต้องห้ามของศาสนา ขณะนี้ผู้นำศาสนาในพื้นที่มีความตื่นตัวเป็นอย่างมากในการช่วยกันดูแลชุมชน และมีโต๊ะครูปอเนาะห์กว่า 700 คน ประกาศพร้อมแก้ปัญหายาเสพติด และนี่คือการพูดคุยสันติภาพอย่างแท้จริง เพราะทุกคนเป็นห่วงเยาวชนเป็นห่วงอนาคต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF
ทบ.ยืนยันอีกรอบ! ปมร้อน “แสตมป์” ไม่เกี่ยวกองทัพ พบไม่เคยร้อง 112
ผบ.ทร.เข้าเยี่ยม พร้อมมอบของบำรุงขวัญ สร้างกำลังใจทหารผ่านศึก ขอบคุณเสียสละเพื่อชาติจนทุพพลภาพ
“อัจฉริยะ” ยอมเสี่ยงชีวิต มาขึ้นไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล พร้อมเปิดแผลผ่าตัดโชว์นักข่าว
"อิสราเอล" บิดหยุดยิง ถล่มเวสต์แบงก์ดับเกลื่อน "ฮามาส" รวมพลด่วน
ตม.4 บุกทลายเว็บพนันฯเกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการควบคุมทั่วโลก เงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท
เปิดคำพิพากษา “เต้ มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอม ยอมขอโทษ หมิ่นกล่าวหา “ศักดิ์สยาม”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น