เหมือนแหย่รังแตน “พรรคเพื่อไทย” ภายหลัง “นายชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ประกาศว่า ประเด็นที่จะอภิปรายหลังจากรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินมากว่า 6 เดือน แต่ไม่ได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ซ้ำยังเพิกเฉยต่อการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ไม่มีการขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งคนไทยและต่างประเทศ เอารัดเอาเปรียบประชาชน ปล่อยให้ข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ รีดนาทาเล้นประชาชน หลักนิติธรรมถูกทำลายโดยการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม การอภิปรายครั้งนี้จะเรียงตามหมวดหมู่ประเด็นที่ใกล้เคียง พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการเจรจาต่อรองกับรัฐบาล จึงเป็นเหตุให้ บิ๊กเพื่อไทย ดาหน้ากันออมาซัดเต็มข้อ “พรรคก้าวไกล” อาทิ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษา ฝ่ายการเมือง ของรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องดีหากเป็นการสะท้อนปัญหาบ้านเมืองอย่างแท้จริง แต่ถ้าใช้เป็นเวทีสร้างคะแนนนิยมเรียกเรตติ้ง อันนี้ตนไม่เห็นด้วย แต่เท่าที่ได้ฟัง “นายชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้าน แถลง ตนเห็นว่าบรรยายเกินจริงไปหน่อย โดยเฉพาะเรื่องรัฐบาลไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ท่านคงจะปิดหูปิดตามากเกินไป จึงมองไม่เห็นสิ่งที่รัฐบาลทำ ปัญหาที่รัฐบาลเข้ามาแก้มีทั้งปัญหาเก่าใหม่ ใหญ่เล็ก และปัญหาที่หมักหมมมานานก็ไม่ใช่น้อย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ 6 เดือน งบประมาณก็ไม่มี ถ้าไม่บริหารจัดการแบบมืออาชีพจะผลักดันโครงการใหญ่ๆ จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้อย่างไร ขนาดโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนยังชี้ว่า 6 เดือนแรกนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทำงานเข้าตา ประชาชนหนุนอยู่ครบเทอม ส่วนประชาธิปัตย์พรรคการเมืองเก่าแก่นั้นก็พูดเกินจริงกันไปไกลทั้งยุติธรรมสองมาตรฐาน ถ้าคิดจะโกงไม่ต้องใช้งบประมาณก็โกงได้ จะอภิปรายจะปล่อยของอะไรก็ระวัง ของมันจะเข้าตัว กลัวจะตกม้าตาย ต้องไม่ลืมว่าพรรคของท่านก่อนหน้านี้ก็ร่วมรัฐบาลมาก่อน ดูแลอะไร ทำดีแค่ไหน ประชาชนจดจำได้
“รัฐบาลนี้ทำงานแค่ 6 เดือน แก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ สินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในรอบหลายปี ทั้งยาง ทั้งอ้อย อ้อยจากราคาเดิม 850-950 ต่อตัน ตอนนี้เท่าไหร่ 1,700-1,850 ต่อตัน ยางราคาเดิม 3 โล 100 แล้วตอนนี้ราคาเท่าไหร่ โลละ 75 บาท ซึ่งยังไม่รวมราคามันสำปะหลัง ข้าวโพด ข้าว ที่มีราคาสูงขึ้นมาก ตอนที่ท่านดูแลท่านทำดี ทำได้เท่านี้หรือไม่ ตอนท่านเป็นรัฐบาลเคยบริหารเมกะโปรเจค เคยเกิดที่ภาคใต้ที่ท่านมี สส.ในพื้นที่บ้างหรือไม่ โครงการใหญ่ ๆ ทำให้เกิดงาน สร้างรายได้ ท่านเองก็น่าจะรู้ แล้วที่บอกว่ารักพี่น้องชาวใต้มันจริงหรือเปล่า ผิดกับรัฐบาลนี้ เราไม่เลือกปฏิบัติเหมือนที่ใครบางคนเคยใส่ความ ก่อนหน้าก็โครงการแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้าน เมื่อวานคมนาคมก็บอกว่ากำลังเร่งผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จ.ภูเก็ต มูลค่าการลงทุน 1.48 แสนล้าน สนับสนุนเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ผลักดันการลงทุนเร่งด่วน 7 โครงการ ท่านเคยมีโอกาสทำงาน มีเวลา มีงบประมาณแต่กลับไม่มีผลงานให้เป็นเป็นชิ้นเป็นอัน จับต้องอะไรก็ไม่ได้เลย”
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนมั่นใจว่าการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่มีนายกฯ ที่ชื่อเศรษฐา การทำงาน 6 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนรับรู้และสัมผัสได้ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง การสร้างรายได้ขยายโอกาส เมกะโปรเจคที่รัฐบาลผลักดันออกมารัวๆ การท่องเที่ยวที่เติบโต สินค้าเกษตรราคาสูงขึ้น ทั้งยาง ทั้งอ้อย และอื่นๆ อีกมากมาย ต้องไม่ลืมว่าสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น ปัญหาที่ถูกแก้ รัฐบาลทำด้วยเงื่อนไขของงบประมาณที่จำกัด การที่พรรคฝ่ายค้านทวงคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลให้ไว้กับประชาชนแล้วยังกล่าวหาว่าเพิกเฉยต่อการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ทั้งที่รู้ว่าสิ่งต่างๆ เหล่านั้นต้องใช้งบประมาณเป็นตัวขับเคลื่อนบนเงื่อนไขของเวลาที่มากกว่านี้
“สิ่งที่ท่านกล่าวหาดูมันขัดแย้งกันยังไงพิกล รัฐบาลทำงานเต็มที่ นายกฯ ทำงานไม่มีวันหยุด ประชาชนรู้ ผลโพลก็บอก โรดโชว์ 16 ประเทศ จะสร้างความเชื่อมั่นดึงเม็ดเงินลงทุนทยอยไหลเข้าประเทศ ที่ทำทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ใช้งบประมาณ 2567 เสียด้วยซ้ำ ตนตั้งข้อสังเกตว่าการที่พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ครั้งนี้ ทำเพื่อแก้เกี้ยวหรือเปล่า เพราะเห็น สว. เค้ายื่นญัตติไปก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่”