เดือด “นายกเล็กเมืองลพบุรี” ชี้ทำ MOU เรื่องลิงเป็นแค่ภาพลวงตา วอนรัฐบาลทบทวนเร่งแก้จริงจัง Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา นายจําเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี นำกระเช้า เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ นางสาวอริย์กันตา กาญจนสินเมธา ณ บ้านเลขที่ 234/252 หมู่ที่ 1 หมู่บ้านธาราทิพย์ ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บ จากการถูงลิงทำร้าย จนสะบ้าหัวเข่าข้างซ้ายหลุด และมีอาการปวดร้าวไปถึงสะโพก เหตุเกิด เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
นายจําเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี กล่าวว่า พอผมทราบข่าว เราก็ตั้งใจจะรีบมานั่นแหละ เพราะว่าเหตุเกิดในพื้นที่ท้องที่ของเทศบาลเมืองลพบุรี ถึงเราจะไม่ใช่ผู้รักษากฎหมายเรื่องลิง แต่เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเหตุเกิดในพื้นที่ของ เทศบาล แต่ด้วยมนุษยธรรม และด้วยความเห็นอกเห็นใจ ในฐานะพี่น้องคนลพบุรี ที่ได้รับความเดือดร้อน….นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี บอกว่ารายนี้ไม่ใช่รายแรก มันเกิดมาหลายครั้งหลายปีแล้ว ซึ่งเคยมีเคสก่อนหน้าหลายปีที่แล้วคนอายุ 70-80 ปีก็เคยโดนลิงแย่ง อาหาร และล้มสะโพกหัก ต้องนอนผ่าตัดตั้งหลายเดือน ทั้งเด็กและนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งก็เคยโดนกัดประจำ ซึ่งผมเคยต่อสู้มาเมื่อ 7-8 ปี เรื่องปัญหาเรื่องลิง ถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาล เคยไปเป็นกรรมการกรรมาธิการ เพื่อที่จะขนย้ายลิง แต่หลังจากนั้นมา ประธานคณะกรรมาธิการ เคยมีความเห็นชอบจะย้ายลิงบางส่วนไปอยู่ที่เขาพญาเดินธง
แต่หลังจากนั้น เรื่องเงียบไป หลังจากเรื่องเงียบไป ผมก็มาต่อสู้ทุกอย่าง เพื่อที่จะจัดระเบียบ เพื่อให้คนอยู่กับลิงได้ แต่ต้องอยู่ในจำนวนที่จำกัด ในจำนวนที่เหมาะสม อย่าง ลิงศาลพระกาฬก็ต้องเอาไว้ ลิงพระปรางสามยอดเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลพบุรี เรายังคงต้องเอาไว้ แต่ตอนนี้มันขยายพันธุ์ มันขยายวง ไปอยู่ ตามตึกต่าง ๆ ในจังหวัดลพบุรี และตามโรงพยาบาล ตามวงเวียนสระแก้ว ซึ่งห่างกันหลายกิโล สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ในชุมชนนครโกษา ก็ได้รับการร้องเรียนมาว่ามีลิงเข้าไปอยู่เป็นจำนวนมาก ทางเทศบาลก็ขอให้ประชาชนทำหนังสือร้องเรียนขึ้นมา ทางเทศบาลจะทำหนังสือถึงปศุสัตว์ เพื่อให้ปศุสัตว์ทำหนังสือถึงกรมอุทยาน
ซึ่งขั้นตอน ต่างๆ ไม่ได้อยู่ในอำนาจของเทศบาล ซึ่งผู้บาดเจ็บก็ทราบดี ว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทศบาล เทศบาลมีอำนาจหน้าที่เพียงแค่ดูแลในเรื่องความสะอาด เท่านั้น ซึ่งคนที่ให้อาหารลิง เลอะเทะ เทศบาลก็ทำตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งเราเคยบอกว่าเราจะจับปรับคนที่ให้อาหารลิง ไม่เป็นไปตามที่เทศบาลกำหนดไว้ตามจุดต่างๆ ซึ่งทำให้บ้านเมืองสกปรก ตอนนี้บ้านเมืองสะอาดมาก แต่ลิงก็เยอะขึ้น ขยายไปตามบ้านคน แย่งสิ่งของ แย่งอาหาร อะไรต่างๆ ในตลาด ในศูนย์การค้า ซึ่งขณะนี้ไม่มีตลาดไม่มีศูนย์การค้าแล้ว เพราะลิงเข้าไปอาศัยอยู่แทน มันจึงทำให้เกิดปัญหารุนแรงขึ้นมา บางคนก็ไม่เข้าใจ ไปพูดในกรรมาธิการ ว่าต้องเห็นใจลิงแทนที่จะเห็นใจคน กลับไปเห็นใจลิง ซึ่งการเห็นใจคนเห็นใจลิงมันต้องควบคู่กันไป เพราะฉะนั้นต้องแจ้งให้ทราบว่า การที่บอกว่าให้อาหารลิง บอกพื้นที่ให้น้อย เนื่องจากในเขตเทศบาลมีพื้นที่จำกัด คือ 3 ที่ คือที่หลังโรงภาพยนตร์มาลัยรามา ที่ศาลพระกาฬ และข้างสถานี รถไฟ ซึ่ง 3 จุดเราก็ให้อาหารลิงตามระเบียบ และส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบคนที่ให้อาหารลิงนอกพื้นที่ ซึ่งเราเคยบอกว่าเราจะจับปรับ 2,000 บาท แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยปรับใครเลย ซึ่งเคยมีแต่ว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น
นายกเทศมนตรีดังกล่าวด้วยว่า เรื่องลิงเป็นหน้าที่ของกรมอุทยาน ซึ่งการทำ MOU มันเป็นแค่ภาพลวงตา ซึ่งการทำ MOU ถามว่าเทศบาลทำอะไรได้ไหม นายกเทศมนตรีบอกว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะลิงยังเป็นสัตว์สงวน ซึ่งผมเคยพูดกับท่านนายกเศรษฐา ทวีสินไปแล้ว ว่าจะแก้ปัญหายังไง ซึ่งการแก้ปัญหาไม่ยาก คือการเอาลิงออกจากการเป็นสัตว์สงวน เมื่อเอาลิงออกจากสัตว์สงวน เสร็จ แล้วมอบพื้นที่ลิง อยู่ตำบลไหน อยู่เทศบาลไหน ให้เทศบาลนั้น เป็นผู้ดูแล แล้วตั้งงบประมาณ ดูแลเรื่องลิง จัดระเบียบเอง รับผิดชอบเอง ถ้าลิงกัดคน หรือทำร้ายคนในเขตท้องที่ใคร ให้ท้องที่นั้นรับผิดชอบ แต่เนื่องจากตอนนี้ ลิง เป็นสัตว์สงวน ซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่และไม่มีอำนาจ จึงขอฝากไว้…. ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณ จากส่วนกลาง ให้กว่า 26 ล้านบ้าท เพื่อปรับปรุงกรงลิงให้ถาวร ที่สวนลิงของเทศบาล
ซึ่งขณะนี้ กรงลิง ทางเทศบาลมีอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ปรับปรุงตามที่ กรมอุทยานกำหนด ขอให้บอกมาว่าจะให้ทำยังไง บอกให้ทำสลิงร้อย ทางเทศบาลก็ทำให้ บอกให้เทปูนก็กำลังทำให้อยู่ ซึ่งกำลังทำไปเรื่อย ๆ เร่งดำเนินการอยู่ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่า… เมื่อทำเสร็จแล้วจะผ่านหรือไม่ ซึ่งผมก็ยังงง ๆ อยู่ว่า ท่านที่ปรึกษากรมอุทยานได้มาดูแล้ว และพูดกับผมว่า ตั้งแต่ดูมาหลายจังหวัดแล้วในประเทศไทย บอกว่าที่นี่ กรงลิงดีที่สุด แต่ก็ต้องปรับปรุงอีก ซึ่งทางเทศบาลก็ทำตามที่บอกมา ซึ่งเทศบาล จะแบ่งเบาภาระ ความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน ถึงลิงจะยังไม่ออกจากสัตว์สงวน ทางเทศบาลก็จะทำเรื่องถึงกรมอุทยาน ให้มาจับลิง แล้วก็มาฝากลิงเอาไว้ แต่ ณ เวลานี้ ทำเสร็จแล้วก็ไม่จบ เนื่องจากกรมอุทยานบอกว่ายังไม่แข็งแรง ซึ่งทางเทศบาลก็แก้ไขตามที่กรมอุทยานกำหนดทุกอย่าง
ซึ่งขณะนี้ใกล้เสร็จแล้ว แต่เมื่อเสร็จแล้วก็ยังไม่รู้ว่า กรมอุทยานจะให้ผ่านหรือเปล่า ว่าจะแข็งแรงหรือไม่แข็งแรง แต่เทศบาลก็ทำตามที่กรมอุทยานแนะนำทุกอย่าง ในส่วนของ หมอ ที่จะดูแลคุณภาพ ดูแลลิงต่างๆ ทางเทศบาลได้เตรียมการไว้ให้ เตรียมบุคลากรการบริหารดูแลลิง ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น ตอนนี้มันไม่ใช่ปัญหาของท้องถิ่น มันเป็นปัญหาที่ “กรมอุทยาน” นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี ยังบอกต่อด้วยว่าถ้าจะให้จบ 100% ต้องเอา ลิง ออกจากสัตว์สงวน ถ้าเอา ลิง ออกจากสัตว์สงวนได้ผมการันตีว่า จบ โดยเฉพาะในพื้นที่ของผมจบล้านเปอร์เซ็นต์
ซึ่งการที่มาดูแลคนเจ็บในวันนี้ ก็ด้วยมนุษยธรรม และเหตุเกิดในท้องที่ของผม เราไม่มีอำนาจที่จะไปทำอะไร กับลิง ก็ดูแลได้เพียงเท่านี้ ต้องขออภัยกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผมก็ชื่นชมครอบครัวน้องที่ได้รับบาดเจ็บ ที่ทราบดีว่าเทศบาลไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจคือกรมอุทยาน ซึ่งผมเคยพูดหลายครั้งแล้ว ผมต่อสู้ กับเรื่องปัญหานี้ มา 7-8 ปี แล้วก็เงียบกันไป เพราะฉะนั้น ฝากกับสื่อมวลชน ให้ถึงท่านนายกรัฐมนตรี ว่าการแก้ไข ล่าช้า มันก็จะเกิดปัญหาแบบนี้อีก ซึ่งแต่ปัญหาไม่ได้เกิดจากท่านนายก แต่ปัญหามันเกิดจากหน่วยงาน ที่รับผิดชอบ ขอฝากไว้ด้วยกันนะครับ
ขณะที่นางสาวอริย์กันตา กาญจนสินเมธา บอกว่าวันนี้ ได้มอบหมายให้แฟนหนุ่ม ไม่ยื่นหนังสือลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ที่ สภ.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี เพื่อเป็นหลักฐาน ประกอบในการใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลต่างๆ ตาม พรบ.ต่างๆ และยังได้รับกำลังใจจากผู้นำท้องถิ่น เพื่อนบ้าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดที่สั่งให้หน่วยงานต่างๆ ลงมาพูดคุยให้กำลังใจ ซึ่งในวันนี้ไปพบแพทย์ตามนัด แพทย์ระบุเอ็นเข่าฉีกอักเสบ ต้องพักรักษาตัวต่อเนื่องประมาณ 6-7 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย ส่วนเรื่อง จุดเกิดเหตุ ที่มือในเวลากลางคืน ล่าสุดจนท.กองช่าง สนง.เทศบาลเมืองลพบุรี ได้นำไฟส่องสว่างไปติดตั้งให้แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น