ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 21 ราย ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 6 คน จากฝนกระหน่ำตั้งแต่วันพฤหัสบดี
อินโดนีเซียเกิดฝนตกหนักหลายครั้งตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ในเขตเปซีซีร์ เซลาตัน ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก ที่เมืองปาดัง เมืองเอกของจังหวัด และพื้นที่อื่นๆ อีก 8 แห่ง บ้านเรือนเกือบ 700 หลัง รวมถึง สะพานและโรงเรียนหลายแห่ง และพื้นที่เพาะปลูกราว 706 ไร่ถูกทำลาย ประชาชนมากกว่า 7 หมื่น 5 พันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่
จากการเปิดเผยล่าสุดของเจ้าหน้าที่เมื่อวันอาทิตย์ ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 21 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 6 คน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแจ้งยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 18 คน และสูญหาย 5 คน
อับดุล มาลิก หัวหน้าทีมค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่กล่าวว่า ทีมงานประมาณ 150 คนกำลังค้นหาผู้สูญหาย ใน 3 พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสจากหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยระบุว่า ระดับน้ำที่ก่อนหน้านี้เคยท่วมสูง เริ่มลดลงแล้ว แต่การเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากดินถล่มยังคงทำได้ยาก เนื่องจากภูมิประเทศเป็นเนินเขา
ส่วนผู้ประสบภัยได้ใช้มัสยิดที่ใกล้ที่สุดเป็นสถานที่พักพิงชั่วคราว ซึ่งหน่วยงานได้เตรียม อาหาร น้ำและยารักษาโรคไว้ช่วยเหลือ เพื่อรอให้พวกเขาสามารถกลับเข้าบ้านได้หลังน้ำลด อีกทั้งคาดว่า จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หน่วยงานจึงเตือน ให้ประชาชนเฝ้าระวังความเสียหายเพิ่มเติม จากน้ำท่วมและดินถล่ม
ทั้งนี้ ฤดูฝนของอินโดนีเซียเริ่มต้นในเดือนมกราคม โดยหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะมีฝนตกหนักสูงสุดในช่วง 3 เดือนแรกของปี โดยเฉพาะบนเกาะชวาและสุมาตรา อินโดนีเซียมีแนวโน้มที่จะเกิดดินถล่มในช่วงฤดูฝน และปัญหาก็ทวีความรุนแรงขึ้นในบางพื้นที่ จากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มก่อนหน้านี้ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ใกล้ทะเลสาบโตบา บนเกาะสุมาตรา ทำให้บ้านเรือนหลายสิบหลังและโรงแรมแห่งหนึ่งพังทลาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสองคน