“เสมา 1 ” สั่งตรวจครูมัธยมวัดธาตุทอง ออกข้อสอบโยงการเมือง ลงลึกเจตนาครู เบี่ยงเบนหรือไม่ Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
11 มีนาคม 2567 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ถึงกรณีการตรวจสอบข้อสอบโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง วิชาสาระร่วมสมัย ในรูปแบบ 50 Keyword ที่มีการถามโยงสถาบันฯ และม.112 ระบุว่า พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เราได้ส่งคนไปตรวจเรื่องลักษณะของการตอบว่า เขาเบี่ยงเบนไปในทางใดหรือไม่ มันโปร่งใสหรือไม่ ต้องมีโอกาสได้คะแนนเหมือนกัน มันต้องไม่มีถูกไม่มีผิด
เพราะถ้ามันมีถูกมีผิด อันนี้ไม่ใช่เรื่องของการแสดงความคิดเห็นแล้ว ซึ่งก็ได้คุยกับทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ หรือ สพฐ.แล้ว ตนเข้าใจว่าสพฐ.มีกรรมการ หรือคนไปสังเกตการณ์ด้วยว่าลักษณะการให้คะแนนของเขามันมีเบี่ยงเบนหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่า เวลาเขาทำ เขาค่อนข้างระวังตัว เพราะเป็นเทรนด์ทวิตเตอร์ ซึ่งมันก็เป็น Fact หรือ ข้อเท็จจริง ดังนั้นการตั้งคำถามก็ตั้งได้ แต่เวลาเด็กตอบคุณให้คะแนนเด็กอย่างไร ลำเอียงหรือไม่ หากคุณลำเอียงย่อมมีปัญหาแน่นอน ซึ่งเมื่อโรงเรียนสอบเสร็จ เราก็คงได้รับรายงาน
ส่วนเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีความเป็นห่วงเป็นพิเศษหรือไม่ หรือว่าให้ตรวจสอบไปตามกระบวนการ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า อันนั้นก็คงเป็นทางลับ ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ควรจะต้องมาออกสื่อ เพราะออกสื่อมันเป็นเป้า แแต่ว่าในความเป็นจริงคือเราก็ดำเนินการติดตามดูแล อย่าให้มันเกินกรอบ อย่าให้มันเยอะเกินไป หากโจ๋งครึ่มก็ฟันเลย แต่นี่มันไม่โจ๋งครึ่ม ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ว่าจะมีโรงเรียนอื่น ๆ นำแนวทางนี้ไปใช้ในการออกข้อสอบ เพราะก็มีครูที่มีความคิดในลักษณะนี้นั้น ถ้ามันตรงไปตรงมา ไม่มีชี้นำ มันก็อาจจะทำได้ แต่ถ้าเป็นคำถามอื่นที่มันชี้น้ำ มันมีปัญหาแน่นอน
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลไปจัดกิจกรรมในโรงเรียน ได้หารือเรื่องนี้หรือไม่นั้น นายสิริพงศ์ กล่าวว่า มันก็เป็นกิจกรรมในวันหยุด ซึ่งกระทรวงก็ติดตามดูอยู่ แต่เราคงไม่ได้เฉพาะเจาะจง เพราะพรรคการเมืองที่ไปดำเนินการปกติ มันก็คงไม่เป็นไร โรงเรียนเขาก็ไม่ฝักใฝ่การเมืองอยู่แล้ว แต่ตนเข้าใจว่าที่เขาเข้าไปคือไปพูดเรื่องการศึกษา ซึ่งถ้ามีเรื่องแอบแฝงอื่นสามารถร้องเรียนมาได้ ถ้ามันมีพยานชัดเจนว่า การเข้าไปในโรงเรียนเพื่อไปทำวัตถุประสงค์อื่น ก็สามารถร้องเรียนได้
โฆษกกระทรวงศึกษาธิการย้ำว่า กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ปล่อยปละละเลย เพียงแต่ว่าเขาก็จัดตามระเบียบที่เขาสามารถจัดได้ แต่ต้องมาดูว่าดุลยพินิจในการตั้งคำถามและคำตอบ เขาต้องไม่เบี่ยงเบนไปในทางที่ทำให้สังคมกังวลใจ อย่างเช่น ต้องโจมตีสถาบันฯเท่านั้นถึงจะได้คะแนนสูง แต่ถ้าเกิดว่าเขาพูดโดยหลักวิชการ ไม่ว่าจะตอบแบบไหน เด็กก็มีโอกาสสอบผ่านเหมือนกัน ถ้าแบบนั้นก็คงไม่ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้เราไม่ได้อยากได้ชื่อว่าเราโหน เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเราอำนาจนิยม มันก็ไปเป็นเครื่องมือให้เขาโจมตีเราอีก ว่าสุดท้ายเราก็อำนาจนิยมกดทับเราจึงมาบอกว่าเราไม่ได้ห้ามนะ แต่อยู่ที่คุณละ ว่าคุณเบี่ยงเบนมั้ย และมีเจตนาแบบไหน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น