“รทสช.” ขวางลำ “ก้าวไกล” ล้างแค้น “ศาลรธน.” จี้ “จุฬาฯ” สอยนักวิชาการกุเรื่องตามจิก “จิรัฏฐ์” คดีหนีทหาร

"รทสช." ขวางลำ "ก้าวไกล" จ้องเอาคืน "ศาลรธน." แค้นโดนยุบพรรคคดีล้มล้าง คู่ปรับ "ก้าวไกล" กัดไม่ปล่อย ไล่บี้ "จุฬาฯ" สอยนักวิชาการกุเรื่องแซะสถาบัน ตามจิก "จิรัฏฐ์" คดีหนีทหาร

TOP News รายงานประเด็นร้อน ก้างขวางคอ “พรรคก้าวไกล” ต้องยกให้ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีมติเอกฉันท์ไม่เห็นด้วยที่ พรรคก้าวไกลยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและขอบเขตอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยพรรคได้ประชุมเรื่องนี้กันอย่างละเอียดถึงความเหมาะสมในการที่พรรคก้าวไกลอาจเสนอญัตติด่วนดังกล่าวแทรกวาระการประชุมปกติให้สภาฯพิจารณาในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเห็นว่าญัตติด่วนดังกล่าวอาจขัดรัฐธรรมนูญเพราะรัฐธรรมนูญได้กำหนดอำนาจของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นการเสนอญัตตินี้เข้ามาในสภาฯอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรค รทสช. กล่าวว่า เหตุผลข้อที่ 2 พรรคมองว่า การยื่นญัตติของพรรคก้าวไกลเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาลเนื่องจาก มีพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดอำนาจขั้นตอนและวิธีการพิจารณาคดีใดๆไว้อย่างชัดเจนในการวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวข้องภายใต้ขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการยื่นญัตติลักษณะนี้พรรคมองว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน เพราะมี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดีไว้อย่างชัดเจนแล้ว

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เหตุผลข้อ 3 พรรคมองเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.ได้ยื่นเรื่องการยุบพรรคก้าวไกลไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล และผลของการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามองว่าความพยายามในการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลเป็นการกัดเซาะบ่อนทำลายกระบวนการในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ดังนั้นการที่พรรคก้าวไกลยื่นญัตติด่วนให้สภาฯพิจารณา พรรคจึงมองว่าเป็นการใช้กลไกของสภาฯในการรักษาผลประโยชน์ให้กับพรรคก้าวไกลโดยตรง ทั้งที่กลไกของสภาฯควรเป็นเวทีรักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนไม่ใช่การรักษาผลประโยชน์ให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง

“ทั้ง 3 เหตุผล พรรครวมไทยสร้างชาติจึงมีมติเป็นเอกฉันทท์ไม่เห็นด้วยกับญัตติด่วนของพรรคก้าวไกลที่ให้สภาฯพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ศึกษาเรื่องดังกล่าวอีกทั้งพรรคยังมองว่าเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ที่มีการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกลและอาจมองได้ว่าเป็นความต้องการลดความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดี ที่พรรคก้าวไกลถูกกกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ดังนั้นเพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม จึงไม่ควรนำญัตตินี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯควรปล่อยให้เป็นกลไกของศาลรัฐธรรมนูญ ในการพิจารณาคดี เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมกับผู้ร้องและผู้ถูกร้อง”โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว

 

นอกจากนี้ ดร.ทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร ในฐานะนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ นำแนวร่วมเพจก้าวไกลโกหกอะไร เข้ายื่นหนังสือถึงนายกสภามหาวิทยาลัยและอธิบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขอทราบผลการตรวจสอบวิทยานิพนธ์และให้ปริญญาของนายณัฐพล ใจจริง อาจารย์ประจำคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ผู้เขียนหนังสือ “ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ” และ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” ของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ซึ่งอ้างอิงมาจากวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของนายณัฐพล หัวข้อ “การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500)”

เนื่องจากวิทยานิพนธ์ของนายณัฐพลมีเนื้อหาสาระสำคัญ ซึ่งอ้างอิงแหล่งที่มาและเนื้อหาที่ไม่มีอยู่จริง สภามหาวิทยาลัยและจุฬาลงกรณ์ฯได้สอบสวนแล้วตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งเห็นว่ากรณีดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อความน่าเชื่อถือทางวิชาการของจุฬาลงกรณ์ฯ ผู้มีส่วนได้เสียย่อมได้รับผลกระทบจากมติของสภามหาวิทยาลัย และเห็นว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ควรเพิกเฉยต่อพฤติกรรมการผิดจรรยาบรรณทางวิชาการดังกล่าว นอกจากนี้ได้สืบค้นมติสภามหาวิทยาลัยซึ่งต้องเปิดเผยตามมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษา แต่ไม่พบมติสภามหาวิทยาลัยเกี่ยวกับผลการสอบสวน และการทบทวนการอนุมัติปริญญาดุษฎีบัณฑิตดังกล่าว ดังนั้นตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ดร.ทันกวินท์ จึงขอทราบผลการสอบสวนและติของสภามหาวิทยาลัยเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์และการอนุมัติปริญญาของนายณัฐพล ใจจริง ทั้งนี้หากมีความก้าวหน้าหรือผลการพิจารณาเป็นประการใด ก็ขอได้โปรดแจ้งให้ทราบเป็นหนังสือ

จากนั้น ดร.ทันกวินท์ ยังนำแนวร่วมเพจก้าวไกลโกหกอะไร ได้เข้าพบพันเอก พงศฤทธิ์ ภวังคะนันท์ ผู้อำนวยการกองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน หรือ นรด. เพื่อสอบถามความคืบหน้าตรวจสอบนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กรณีหนีทหารและใช้ใบ สด.43 ปลอม โดยสรุปความคืบหน้าได้ ดังนี้
1) พนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดี ส.ส.จิรัฏฐ์ พร้อมเรียก สด.43 มาพิสูจน์
2) นรด.ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานจากกองการสัสดี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของฉะเชิงเทราแล้ว เจ้าพนักงานดำเนินการถูกต้อง
(3) นรด.พร้อมให้พิสูจน์เนื้อกระดาษ ยืนยัน สด.43 นายนวรินทร์อยู่ครบ
(4) ถ้านายจิรัฏฐ์แจ้งเปลี่ยนชื่อจริง ต้องมีใบรับจาก นรด. จี้โชว์ใบแจ้งเปลี่ยนชื่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครูบาอริยชาติ เกจิภาคเหนือวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย สร้างพระพุทธเมตตา จากหยกรัสเซียใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 10 ตัน
นายกฯ-สามี พา "น้องธิธาร" ลูกสาว วิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
กระทรวงดีอี – ดีป้า เปิดศึกบิน – ซ่อมโดรนเกษตรชิงแชมป์ประเทศไทย ในรายการ “Thailand Agriculture Drone Competition 2024”
รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ฯ นำ จนท.ตรวจสารเสพติดทหารใหม่ 2,911 นาย เพื่อค้นหาผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
รถบรรทุกปูนพลิกคว่ำขวางถนนรถติดยาวหลายกิโล
รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภาคอีสาน คุมเข้มแผนบริหารจัดการน้ำ พร้อมเร่งขับเคลื่อนมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้ง
เลือกตั้งสหรัฐ: ทั้งสองพรรคมั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง
แคปซูลส่งกลับ 'เสินโจว-18' ของจีนแตะพื้นโลกปลอดภัย
ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ "หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง" เอาผิดฐานฉ้อโกง หลังหลอกให้สั่งซื้อวัตถุมงคลแพงลิ่ว
แวะปั๊มก่อนเลย พรุ่งนี้น้ำมันขึ้นราคา เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับทุกชนิด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น