ขย่มยุบ “ก้าวไกล” ยิ่งโตหรือยิ่งแฟบ “รทสช.” อัดซ้ำพรรคล้มล้างใช้สภาแก้ปัญหาตัวเอง

"จตุพร"ชี้ยุบ "ก้าวไกล" ยิ่งโตหรือยิ่งแฟบ "รทสช."ซัดพรรคล้มล้างใช้สภาแก้ปัญหาตัวเองทำตัวเป็นพวกอำนาจนิยม2.0

TOP News รายงานประเด็นร้อน กรณียุบพรรคก้าวไกลยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามในหลายประเด็น คือ 1 .พรรคก้าวไกลจะถูกยุบหรือไม่  2.หากก้าวไกลถูกยุบพรรคบรรดา สส.ของพรรคก้าวไกลจะถูกพรรคอื่นดูดหรือไม่ โดยเฉพาะตอนนี้เริ่มมีข่าว่า สส.ก้าวไกลบางคนได้ไปดีลกับบางพรรค เช่น พลังประชารัฐและ ภูมิใจไทย และ  3.คือการหาทางหนีทึไล่ของพรรคก้าวไกลหากถูกยุบจริงจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการตั้งพรรคใหม่ที่ว่ากันว่าได้ตั้งไว้แล้วคือ “พรรคอนาคตไกล” หรือย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นที่มีแนวทางทางการเมืองคล้าย ๆกัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาทำนายอนาคตพรรคก้าวไกลว่าจะไปทางไหน ระบุข้อความว่า โอกาสที่จะพรรคก้าวไกลจะถูกยุบมีแนวโน้มสูง เพราะศาล รธน.วินิจฉัยคดีมาก่อนหน้านี้แล้วว่า การเสนอแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ดังนั้น การต่อสู้เพื่อให้พรรครอดจึงมีเพียง 1 % เท่านั้น อีกทั้งมั่นใจว่า เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นศาล รธน.ให้ยุบพรรคข้อหาล้มล้างการปกครอง โดยใช้ข้อมูลหลักฐานจากคำวินิจฉัยของ ศาล รธน.เอง ดังนั้น จึงไม่ต้องแสวงหาหลักฐานใหม่มาประกอบอีก ส่วนพรรคก้าวไกลร้องขอให้ศาล รธน.ไต่สวนคดีนั้น ตนเชื่อว่า คงยากเพราะการยุบพรรคในอดีตทั้งพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยไม่เคยได้สิทธิ์การไต่สวนเลย เพียงแค่ให้แต่ละพรรคแถลงปิดคดีด้วยน้ำตานองหน้ากันเป็นทิวแถว

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าพรรคก้าวไกลถูกยุบจริง คงทำให้ สส.ของพรรคจำนวนหนึ่งย้ายแยกไปสังกัดพรรคอื่น ซึ่งไม่แตกต่างจากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเช่นกัน และขณะนี้มีการพูดคุยให้ย้ายมาสังกัดพรรคฝ่ายรัฐบาลแล้ว ดังนั้น ต้องรอดดูว่า สส.ตีจากพรรคก้าวไกลจะได้รับเลือกกลับเข้าสภาหรือไม่ แต่บทเรียนบอกแล้วว่า ทุกคนที่จากไปไม่ได้รับเลือกเลยสักรายเดียวเมื่อปี 66

“การที่พรรคการเมืองจะสิ้นสูญไปนั้น ไม่ได้อยู่ที่การยุบพรรค แต่อยู่ที่จุดยืนของพรรคนั้น ช่วงไทยรักไทยถูกยุบอุดมการณ์ย้ายไปอยู่พลังประชาชนยังไม่แปลเปลี่ยน เพราะเป็นจุดยืนประชาธิปไตย แล้วไปต่อเนื่องสู่พรรคเพื่อไทย ดังนั้นผลการเลือกตั้งจึงได้ถึง 256 เสียงท่ามกลางกระแสเสื้อแดงบาดเจ็บ ล้มตายจำนวนมาก”

นาจตุพร กล่าวว่า ส่วนการเลือกตั้งปี 66 ที่ผ่านมา เสียงของพรรคเพื่อไทยหายไปเพราะเกิดจากจุดยืนทางการเมืองที่ไม่ชัดเจนว่าจะจับมือกับพรรคใด ฝ่ายไหนตั้งรัฐบาล อีกอย่างยังไม่ตอบหรือให้คำยืนยันจะจับมือกับพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติหรือไม่ กระทั่งเกิดกระแสจากพรรคก้าวไกลประกาศว่า มีลุงไม่มีเรา จึงทำให้เสียงเพื่อไทยหายไปจำนวนมาก นั่นเป็นเพราะจุดยืนทางการเมืองไม่ชัดเจน

นายจตุพร กล่าวว่า ถึงขณะนี้พรรคก้าวไกลควรต้องคิดถึงอนาคตข้างหน้าในการตั้งพรรคการเมืองที่มีจุดยืนใหม่ รวมทั้งต้องคึดถึงการไม่มี 44 สส.ที่ถูกตัดสิทธิ์การเมืองเมื่อถูกยุบพรรคคดีล้มล้างการปกครองด้วย ถ้าพรรคก้าวไกลยังยืดมั่นใจจิตวิญญาณนักต่อสู้ที่ไม่อีนังขังขอบ โดยกำหนดเป้าหมายเป็นสำคัญ เรื่องยุบพรรคหรือถูกตัดสิทธิทางการเมืองย่อมไม่เป็นปัญหา และประชาชนจะทำใจได้ในภายหลัง

ส่วนการยุบพรรคแล้วจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องวุ่นวายเลย แม้มีประชาชนออกมาต่อสู้ แต่ก้ไม่มากมายนัก ดังนั้น ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชนขาดการมีจิตวิญญาณต่อกันและกัน แต่เป็นเพียงความสัมพันธ์ของนักเลือกตั้งกับผู้เลือกตั้งเท่านั้น จึงไม่มีความผูกพันกันเลย

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือลอรี่ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ว่า อำนาจนิยมของฝั่งล้มล้าง เคยได้ยินแต่คำว่า“เลือดเข้าตา” แต่รอบนี้ ”อำนาจมันเข้าตา“เต็มๆ พรรคก้าวไกล กำลังจะมีการยื่นญัตติด่วนต่อสภา “กมธ.ศึกษาอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่งรทสช.เราตอบชัดแล้วว่าไม่เอาด้วย เป็นการใช้อำนาจก้าวล่วง “อำนาจตุลาการ” เพราะศาลถือเป็นส่วนนึงในอำนาจอธิปไตยหลัก 3อย่างที่แบ่งออกจากกัน อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ..ไม่มีสิทธิล้ำเส้นซึ่งกันและกัน แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของกลุ่มล้มล้างอำนาจนิยม ที่เคยทำพฤติกรรมเช่นนี้ เมื่อ1มีค.ที่ผ่านมา คนของฝั่งล้มล้าง ที่เป็นถึงรองประธานสภาบุกไปถึงทำเนียบ เพื่อใช้อำนาจบาตรใหญ่กดดันฝั่งบริหารมาก่อน แบบที่ไม่เคยมีในหน้าประวัติศาสตร์ไทย

นอกจากนี้ยังเป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เนื่องจากปัจจุบันพรรคก้าวไกลถูกกกต.ส่งคำร้องยุบพรรคไปที่ศาลรธน. ซึ่งการรีบใช้อำนาจนิติบัญญัติเข้าไปตรวจสอบแบบหน้าด้านๆ.. เข้าข่ายผิดเพราะใช้พื้นที่สภาที่ควรนำไปแก้ปัญหาประชาชน มาแก้ปัญหาของพรรคตัวเอง นี่คือที่มาของ “ว่าแต่เขา แต่อิเหนาเป็นหนักกว่า” เกลียดอำนาจนิยม แต่มาเป็นอำนาจนิยม2.0ซะเอง ..เขินมั้ยฮะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น