เจาะลึกหนังเบิกเนตร 3 นิ้ว 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฎิวัติ คณะราษฎรวางแผนแยบยล ดิสเครดิตสถาบันฯ หลอกทหารในวันก่อการ อ้างถูกจีนจีนฮ่อเข้าปล้นคลังแสง แจกใบปลิวโจมตีราชวงศ์จักรีอย่างรุนแรง จนต้องขอพระราชทานอภัยโทษ ก่อนแตกแยกกันเอง ไม่พอใจ “ปรีดี” ฝักใฝ่แนวคิดคอมมิวนิสต์รัสเซีย

เจาะลึกหนังเบิกเนตร 3 นิ้ว 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฎิวัติ ลากไส้คณะราษฎร สุดท้ายแตกกันเอง Top News รายงาน

เปิดให้รับชมผ่านทางออนไลน์เป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา สำหรับภาพยนต์แอนิเมชัน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฎิวัติ ผ่านทางช่องทาง Youtube Facebook และTikTok ซึ่งต่างได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างดี โดยภาพยนต์หรือหนังแอนิเมชัน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฎิวัติ มีความยาว 2 ชั่วโมง 5 นาที ผลิตโดยนาคราสตูดิโอ ใช้ทุนสร้างเพียง 3.7 แสนบาท ซึ่งมาจากการเปิดรับบริจาคระดมทุน อ้างอิงข้อมูลต่างๆถึง 85 แหล่งข้อมูล

หนังแอนิเมชัน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฎิวัติ เป็นการบอกเล่าเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ช่วงการปฎิวัติ 2475 ของคณะราษฎร ตั้งแต่ช่วงก่อนก่อการและเหตุการณ์หลังก่อการ ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้เล่าว่า พระมหากษัตริย์มีแนวคิดริเริ่มจะเปลี่ยนรูปแบบการปกครองมาตั้งแต่ รัชกาลที่ 5 ต่อเนื่องรัชกาลที่ 6 แล้ว จนกระทั่ง ในหลวง รัชกาลที่ 7 ได้ริเริ่มให้มีรัฐธรรมนูญในประเทศไทย และมีรัฐสภา ไม่ใช่นายปรีดี พนมยงค์ แกนนำคณะราษฎร โดยในหลวง รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯให้ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นอดีตเอกอัครราชทูตชาวอเมริกันร่างต้นแบบรัฐธรรมนูญ แต่ที่ปรึกษาชาวอเมริกันและองค์อภิรัฐมนตรี ยังคงเชื่อว่าสยามไม่พร้อมปกครองโดยรัฐสภาทันที เพราะคุณภาพของสภาฯนี้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของราษฎร หากมีไม่พอ สังคมสยามก็จะเกิดความโกลาหลได้ รัชกาลที่ 7 ยังเดินทางเยือนประเทศต่างๆเพื่อศึกษาระบอบการปกครองให้ถ่องแท้ ก่อนจะดำเนินการมอบรัฐธรรมนูญให้ชาวสยาม แต่การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นเสียก่อน

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้นหนังได้เล่าถึงแผนการก่อปฎิวัติ 2475 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์สำคัญตั้งแต่การวางแผนปฎิวัติของคณะราษฎรที่ฝรั่งเศส การใช้วิธีให้อภิสิทธิ์อย่างลำเอียงแก่นักเรียนที่เป็นเชื้อพระวงศ์ เพื่อทำให้ทหารสายราษฎรไม่พอใจ และตีตนออกห่างจากสถาบันฯ การออกคำสั่งลวงให้ทหารว่าถูกพวกจีนฮ่อเข้าปล้นคลังแสง และให้ไปฝึกต่อสู้รถถัง แต่ถูกนำไปที่ลานพระราชวังดุสิต เพื่อปฏิบัติการยึดอำนาจ การให้พระยาประศาสน์พิทยายุทธ เข้าควบคุมตัวเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ที่ทำหน้าที่รักษาพระนครแทน ในหลวง รัชกาลที่ 7 ซึ่งเสด็จไปราชการที่หัวหิน เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยของคณะราษฎร ทำให้เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ไม่พอใจรุนแรง เพราะเป็นผู้เลี้ยงดูพระประศาสน์ตั้งแต่เด็ก และส่งเรียนจนจบนายร้อยเยอรมัน รวมถึงตำหนิร้อยโทประยูร ภมรมนตรี แกนนำคณะราษฎรทั้งที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก พร้อมต่อว่าร้อยโทประยูรว่าเด็กเมื่อวานซืน รู้จักคนไทยดีแล้วหรือ และเตือนแกจะต้องเจอปัญหาเรื่องคน

ส่วนการประกาศยึดอำนาจนั้น พระยาพหลพยุหเสนาได้อ่านประกาศยึดอำนาจการปกครองที่ลานพระราชวังดุสิต และข่มขู่ขอให้ทหารอย่าขัดขวาง และออกไปจากลานพระรูปไม่ได้ จนกว่าจะถูกสั่งให้กลับ นอกจากนี้ยังมีการใช้ปืนจี้ศรีษะถามพลทหารว่าเห็นด้วยกับคณะปฏิวัติหรือไม่ หากไม่ตอบถูกสั่งให้นำไปคุมขัง หนังยังได้เล่าถึงเอกสารใบปลิวของคณะราษฎร ที่เนื้อหาได้โจมตีราชวงศ์จักรีอย่างรุนแรง

จากนั้นหนังได้เล่าถึงเหตุการณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 7 ที่ประทับอยู่ที่วังไกลกังวล และการสั่งห้ามกรมทหารปืนใหญ่ปราบกลุ่มกบฎ เพราะเกรงว่าจะเกิดการนองเลือด อีกทั้งตนเองก็คิดจะให้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และพร้อมกลับพระนครเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองโดยสะดวก วันที่ 25 มิถุนายน 2475 ในหลวง รัชกาลที่ 7 จึงทรงเสด็จกลับกรุงเทพ รวมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่พระองค์ไม่ยอมลงพระปรมาภิไธยร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกของนายปรีดี เนื่องจากเนื้อหาเป็นไปในทำนองแบบเดียวกับรัสเซียที่เป็นคอมมิวนิสต์ ที่ให้มีคณะกรรมการราษฎร ไม่ใช่แบบอังกฤษ ทำให้พระยาทรงสุรเดชและร้อยโทประยูรยอมรับว่าไม่ได้อ่านร่างมาก่อน เพราะนายปรีดีเป็นผู้มีหน้าที่เขียนร่างรัฐธรรมนูญ พระยาทรงสุรเดชจึงรับปากว่าจะไปร่างมาใหม่ แต่ท้ายที่สุดในหลวง รัชกาลที่ 7 ทรงทรงลงพระปรมาภิไธยร่างรัฐธรรมนูญฉบับเดิม แต่ขอให้เป็นแค่ฉบับชั่วคราว พร้อมเปรยว่าจะสละราชสมบัติ เนื่องจากถูกประกาศคณะราษฎรโจมตีอย่างรุนแรง ต่อมาคณะราษฎรได้เข้าเฝ้าขอพระราชทานอภัยโทษ ที่เขียนประกาศโจมตีพระรางวงศ์จักรีอย่างรุนแรงในวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง

จากนั้นหนังได้เล่าว่าเหตุการณ์ควรจะจบลงด้วยดี แต่คณะราษฎรกลับให้เนรเทศเจ้านายระดับสูงที่ถูกขังไว้ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมเรียกร้องเงินจำนวนหนึ่งจากเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ หรือ กรมพระนครสวรรค์ อ้างว่าเพื่อเป็นการช่วยชาติ แต่กรมพระนครสวรรค์ไม่มีเงิน จึงยอมเซ็นยกมอบวังบางขุนพรหมให้คณะปฎิวัติ และเสด็จออกจากเมืองไทย ไม่มีแม้แต่เวลากราบบังคมลาในหลวง โดยมีเงินติดตัวไปเพียง 9 พันบาท

หนังยังได้เล่าถึงความขัดแย้งอย่างรุนแรงในหมู่ของคณะราษฎร ระหว่างนายปรีดีกับพระยาทรงสุรเดช รวมถึงการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจของนายปรี ซึ่งนายปรีดีใช้เวลาหลายเดือนค้นคว้าตัวอย่างจากหลายประเทศ หลายทฤษฏีและหลายลัทธิ เอามาผสมผสานกัน กระทั่งปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2476 ร่างเค้าโครงเศรษฐกิจของนายปรีดีก็เสร็จเรียบร้อย และได้พิมพ์แจกจ่ายไปยังผู้ก่อการและเสนอครม. ซึ่งแนวคิดมีทั้งซื้อที่ดินจากชาวนา บังคับให้ทุกคนทำงาน รัฐบาลจะทำเศรษฐกิจเอง แต่ก็มีพระบรมราชวินิจฉัยจากในหลวงโต้แย้งแบบข้อต่อข้อ และเห็นว่าเป็นโครงการเดียวกับที่รัสเซียใช้อยู่ สุดท้ายที่ประชุมครม.มีมติไม่รับร่างเค้าโครงเศรษฐกิจของนายปรีดี

ทั้งหมดเป็นเพียงเนื้อหาบางส่วนของแอนิเมชัน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฎิวัติ ที่ตีแผ่เรื่องราวเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์สำคัญของไทยในทุกแง่มุม ซึ่งผู้ใดยังไม่ได้รับชม ควรหาเวลาว่างรับชมเป็นอย่างยิ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง