“ผอ.โรงเรียน-ผู้นำชุมชน” หนุนศธ.ทำโครงการคืน “14,000 ภารโรง” ทั่วปท.

จากกรณีที่มีคนร้ายลักลอบงัดห้องเรียน ของโรงเรียนในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อขโมยอุปกรณ์การเรียน และกรณีครูที่อยู่เวรถูกทำร้ายในจังหวัดเชียงราย นำมาซึ่งคำสั่งให้ยกเลิกครูเวรนั้น ผู้สื่อข่าว TopNews ลงไปพูดคุยกับหลายโรงเรียน ต่างก็ยืนยันว่าการมีตำแหน่งนักการภารโรงยังคงจำเป็น และโรงเรียนต่างก็ดีใจที่ทางผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ สั่งการให้คืนตำแหน่งภารโรงให้

โดยนางสาวสุดา แก้ววิจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยกนทา ตำบลคูเมือง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เล่าว่า ทางโรงเรียนมีครูทั้งหมด 25 คน เป็นครูผู้ชาย 3คน ที่เหลือเป็นครูผู้หญิงทั้งหมด ซึ่งไม่มีศักยภาพในการทำงานหนัก ทางโรงเรียนเคยมีนักการภารโรงแต่ลาออกไป ทำให้หากมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ของทางโรงเรียนเกิดชำรุด ครูในโรงเรียนทุกคน ต้องหาวิธีการช่วยเหลือตัวเอง ด้วยการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นเงินจ้างชาวบ้านที่มีความสามารถในการดูแลซ่อมแซม จึงมองว่านักการภารโรงมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับทุกโรงเรียน โดยเฉพาะการเข้าเวรยามและช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี

เช่นเดียวกับ นางสาวสุมาลี มะสุข ครูโรงเรียนห้วยกนทา ที่บอกว่า เห็นด้วยหากในอนาคตจะมีการคืนตำแหน่งภารโรงให้กับทุกโรงเรียน ทั้งนี้เนื่องจากในแต่ละวันครูต้องทำหน้าที่มากกว่าการสอน หากมีภารโรงก็จะเป็นอีกหนึ่งกำลังหลักในการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

นายทวนทอง กลุ่มบ้านหัน ผู้ใหญ่บ้านโนนสวนปอ ในฐานะผู้นำหมู่บ้านและคณะกรรมการโรงเรียน เล่าว่า ภายหลังมีการยกเลิกครูอยู่เวรแล้ว ทางชุมชนก็ช่วยดูแลโรงเรียนในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถช่วยดูแลได้อย่างครอบคลุมในทุกเรื่อง ส่วนการซ่อมแซมโรงเรียน มองว่านักการภารโรงมีความจำเป็นอย่างมาก