“พิธา” เหยียบถิ่นนายใหญ่วัดกำลัง “พท.” ไม่ระคายผิว “รัฐบาล” แค่ไปจัดอีเว้นท์การเมือง

"พิธา"เหยียบถิ่นนายใหญ่วัดกำลัง "พท." ไม่ระคายผิว "รัฐบาล" แค่ไปจัดอีเว้นท์การเมือง

TOP News รายงานประเด็นร้อน นับแต่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปจัดกิจกรรมกับครอบครัวที่จังหวัดเชียงใหม่บ้านเกิดของตัวเอง ประจวบเหมาะกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ไปจัดกิจกรรม ‘ก้าวไกลดับไฟป่า’ จะบังเอิญหรือจงใจแต่ดูเหมือนกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองทุกสายตาเพ่งเล็งไปยัง นายพิธา กำลังวัดกำลังพรรคเพื่อไทยเช็กเรตติ้งตัวเอง วัดรอยเท้า นายใหญ่เพื่อไทยเพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นโดยเฉพาะเก้าอี้นายกอบจ.หวังเจาะฐานเสียงคนเสื้อแดงหรือไม่

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เหมือนร้อนตัวขึ้นมาทันควัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จึงกล่าวว่าเป็นการลงพื้นที่รับฟังปัญหาสถานการณ์ไฟป่าจะไปพบปะกับอาสาของมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งได้เชิญทางพรรคก้าวไกลมาล่วงหน้าแล้ว เพราะอยากให้ฝ่ายการเมืองเข้ามามีส่วนร่วม ทำกิจกรรม ‘ก้าวไกลดับไฟป่า’ รวมถึงนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้มาลงพื้นที่ด้วย

วันเดียวกันนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าไปชมสัตว์ในสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี ช่วงหนึ่งระหว่างที่เดินชมสัตว์ในสวนสัตว์ไนท์ซาฟารีนายทักษิณได้แวะชมสิงโตขาว ที่เพิ่งจะคลอดลูกได้ 7 วัน จากนั้นได้เข้าไปอุ้มลูกสิงโตด้วยความเอ็นดู พร้อมกับหลานหลาน ซึ่งหลานหลานของนายทักษิณ มีอาการตื่นเต้นดีใจที่ได้ดูลูกสิงโตขาว จากนั้นทางสวนสัตว์ได้ขอให้นายทักษิณตั้งชื่อให้ลูกสิงโตขาวตัวนี้ เจ้าตัวเลยตั้งชื่อว่า “The Only” พร้อมบอกเหตุผลที่มาของชื่อนี้ ว่า ปกติลูกสิงโตจะออกลูกหลายตัว แต่แม่สิงโตตัวนี้ออกลูกเพียงตัวเดียวมีความพิเศษจึงตั้งชื่อนี้ให้

จากนั้นนายทักษิณ ได้เขียนข้อความลงในหนังสือเยี่ยมมีข้อความว่า “วันนี้ได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมชมไนท์ซาฟารีอีกครั้ง ผมตระหนักถึงช่วงลำบากตอนช่วงโควิดระบาด แต่ก็ยังรักษาสภาพของไนท์ซาฟารีไว้ได้ ต่อจากนี้ก็มั่นใจว่า เราจะเห็นการพัฒนาที่ดีขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติต้องมามากกว่า 1 ครั้ง ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ไนท์ซาฟารีทุกคนที่รักษาไนท์ซาฟารีไว้ด้วยความรักและภาคภูมิใจในหน้าที่ เราจะช่วยกันพัฒนาต่อไปครับ เมื่อมาถึงนายทักษิณ ได้ทักทายประชาชนที่มารอมอบดอกกุหลาบพร้อมถ่ายรูป ก่อนที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่ เดินทางมารับประทานอาหารที่ร้านนี้ ต่างกรูกันออกไปทักทายนายทักษิณ และครอบครัว ก่อนขอถ่ายรูปอย่างชื่นมื่น จากนั้นนายทักษิณ ได้กล่าวทักทายตอบกลับว่า “หนีห่าว” ก่อนเข้าไปรับประทานอาหารกับครอบครัว

แต่ช่วงที่นายพิธา ลงพื้นที่บ้านเกิดนายใหญ่เพื่อไทย กลับถูกสื่อมวลชนกระหน่ำถามว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน วันนี้มาดูปัญหาไฟป่าเพื่อนำข้อมูลไปอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152

เมื่อถามว่ามีคนมองว่าการที่นายทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหว ทำให้กระแสของพรรคก้าวไกลทำงานยากขึ้นหรือลดลง นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้คำนึงถึงกระแส เราทำงานให้เต็มที่เพราะวาระสำคัญมีเยอะ วิกฤตของเชียงใหม่ในตอนนี้สำคัญมากกว่ากระแสของพรรคก้าวไกล

ยิ่งโดนยิงคำถามถึง พรรคก้าวไกล ใกล้ปิดฉาก เตรียมความพร้อมสู้คดียุบพรรคอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีความกังวล เราต้องเตรียมการทำงานล่วงหน้า การทำงานของพรรคก้าวไกลเหมือนการเขียนหนังสือที่มีหลายบท แต่เรื่องอุดมการณ์ ปณิธาน นโยบายที่พี่น้องประชาชนมอบความไว้วางใจให้ 14 ล้านเสียง เดินหน้าต่อแน่นอน ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีพรรคก้าวไกล จะมีหรือไม่มีตนก็ตาม

เมื่อถามถึงความมั่นใจของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ นายพิธา กล่าวว่า คะแนนเสียงหรือการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นสิ่งที่ยังไกลพอสมควร แต่สิ่งที่ไม่ลืมคือการเลือกตั้งที่ผ่านมา คนเชียงใหม่ออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะ 81% เลือก สส. พรรคก้าวไกล 7 จาก 10 คน สะท้อนว่าพวกเขารอการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราอาจไม่ได้มองอนาคตเท่าปัจจุบัน เราไม่ลืมความไว้วางใจที่พี่น้องชาวเชียงใหม่เคยให้พรรคก้าวไกล ตอนนั้นที่ท่านให้ความไว้วางใจเรามาเป็นอย่างไร หลังจากที่ท่านให้ความไว้วางใจมาแล้วก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งตอกย้ำว่าทำไมหัวหน้าพรรคและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องมาเชียงใหม่ในช่วงเวลาที่เขาลำบากมากที่สุด

นายพิธา กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นยุบพรรคก้าวไกล ว่า มีทีมเตรียมข้อมูล แบ่งเป็น 2 ก้อน คือ คดีของกกต. และคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งกำลังไล่ดูว่ารายละเอียดของ กกต. ยังขาดอะไรอยู่บ้าง และป.ป.ช.หากเทียบกับคดีที่ศาลฎีกาเมื่อสมัยก่อนในการตัดสินคดีของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ รวมถึงนายสิระ เจนจาคะ ใช้เวลาเท่าไร

นายพิธา ระบุว่า ทาง ป.ป.ช. ใช้เวลาเท่าไร เราก็ทำงานกลับและเตรียมอธิบายสู้คดี เรื่องเกี่ยวกับน้ำหนักไม่ว่าจะเป็นมาตรา 49 ที่ตัดสินไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม และมาตรา 92 อันหนึ่งเป็นมาตรฐานที่ไว้ใช้ป้องกันอีกอันเป็นมาตรฐาน ที่ใช้ประหารพรรคการเมือง น้ำหนักมันคนละอนุมาตรากัน สมมุติแม้จะมีคำว่าล้มล้างเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าโทษจะได้สัดส่วนเหมือนกัน เราจะต้องมีดุลยพินิจว่ามาตราหนึ่งมีไว้แค่ตักเตือน บอกให้หยุดการกระทำ แต่อีกมาตราหนึ่งมีไว้เพื่อที่จะยุบพรรค และนำไปสู่การลิดรอนสิทธิทางการเมือง ในการลงเลือกตั้งครั้งต่อไป และเชื่อว่าศาลจะให้ความยุติธรรม และให้น้ำหนักมากกว่าเรื่องของมาตรา 49

ยืนยันว่าไม่มีความกังวลหากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล เพราะเราต้องเตรียมการทำงานล่วงหน้า การทำงานของพรรคก้าวไกล เราคิดว่าเหมือนกับการเขียนหนังสือ มีชัตเตอร์ที่ 1 ชัตเตอร์ที่ 2 ชัตเตอร์ที่ 3 แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุดมการณ์ ปณิธาน และนโยบาย ที่พี่น้องประชาชนให้มา 14 ล้านเสียง เราก็เดินหน้าต่อแน่นอน ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมีผลหรือไม่มีผล

สำหรับคดีของ น.ส.พรรณิการ์ และ น.ส.ปารีณา ที่นายพิธาพูดถึงนั้น เนื่องจากทั้งสองถูก ป.ป.ช.ชี้มูลผิดจริยธรรมร้ายแรง และยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา กระทั่งศาลฯพิพากษาเพิกถอนสิทธิ์ลงเลือกตั้งตลอดไป ซึ่งขณะนี้ 44 สส.ของพรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดย ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการสอบสวน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“หมอเหรียญฯ” แจงหารือฝ่ายกม.สปสช. ปมค้างหนี้แล้ว จับตาบอร์ดใหญ่แก้ปัญหาออกประกาศเบิกจ่ายค่ารักษาผิดพลาด
เบรกดราม่า! “เพจสายทหาร” ร่ายยาว ทำไม “แม่ทัพไทย” ไม่สั่งรบ “ว้า”
เปิดสภา อบจ.เมืองคอนให้นายกฯคนใหม่แถลงนโยบายต่อสภาฯเพื่อมีอำนาจเต็มในการสั่งการช่วยเหลือฟื้นฟูฯหลังน้ำท่วม
ทหารดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้ทําหน้าที่ "ทูตวัฒนธรรม" เชื่อมจีน-โลก
บึงกาฬระทึก หนุ่มคลั่งยิงชาวบ้าน ดับ 2 ราย ก่อนปลิดชีพตัวเองหนีผิด
“อนุทิน” ขออย่าเหมาคดียิง “สจ.โต้ง” ไม่ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ย้ำมท.ลุยจัดการ ทุกสิ่งผิดกม.
บุกค้นอู่ สจ.อุ๊ คนสนิทโกทร หาหลักฐานเชื่อมโยง คดีสังหาร สจ.โต้ง 
กต.เปิดเวทีหารือ 6 ประเทศ เป็นสะพานเชื่อมสันติภาพ "มาริษ" เผยข่าวดี เมียนมายืนยันปล่อย 4 ลูกเรือไทยเร็วๆ นี้
กองทัพอาระกันเรียกร้องทหารเมียนมายอมแพ้ขณะยึดยะไข่
"บิ๊กต่าย" ปัดลอยตัวปมรพ.ตร.เอื้อ‘ทักษิณ’นอนชั้น 14 ลั่นหาก ป.ป.ช.มีมติว่าผิดลงโทษได้ ไม่ต้องตั้งกก.สอบอีก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น