ล่าสุด นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Chuchart Srisaeng” ระบุว่า …..ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 บัญญัติว่า ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอดหรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด
…..ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
…..มาตรา 341 บัญญัติว่า ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
…..มาตรา 343 บัญญัติว่า ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำความผิดต้องรระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
…..มาตรา 348 บัญญัติว่า ความผิดตามมาตรา 343 เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้
…..กรณีที่มีการลงข่าวในโซเชียล เป็นการโฆษณาแก่ประชาชนทั่วไปว่า มีการเปิดคอร์สรับจ้างสอนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา เช่น การสอนอภิญญา วิชชาสาม และอื่นๆ จนกระสอนให้ไปนิพพาน เป็นต้น โดยการเรียกเงินค่าสอนแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทที่การต้องศึกษา
…..ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์และมีประสบการณ์เคยได้รับการสอนการนั่งสมาธิหรือปฏิบัติกรรมฐานจากพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ที่วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี และมาปฏิบัติต่อที่บ้านมานานหลายปีแล้ว
…..อยากจะบอกให้ทราบกันว่า สิ่งโฆษณากันนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ว่า สอนให้ไปนิพพานนั้น เป็นความเท็จอย่างแน่นอน เพราะการจะไปนิพพานได้นั้นต้องสำเร็จเป็นพระอรหันต์ การสอนให้คนสำเร็จพระอรหันต์ไม่สามารถกระทำได้ เพราะเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของแต่ละบุคคล
…..การกระทำดังกล่าว เป็นการแสดงความเท็จต่อประชาชนเพื่อต้องการให้ประชาชนสมัครเรียนและชำระเงินค่าเรียนแก่ผู้ที่ตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนวิชาดังกล่าว
…..จึงเข้าข่ายมีความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341 และเมื่อเป็นการประกาศให้ประชาชนทราบกันทั่วไปจึงเข้าข่ายตามมาตรา 343 และได้ลงมือกระทำไปแล้ว ถ้ามีคนเชื่อและนำเงินไปชำระให้แก่ผู้ตั้งตัวเป็นอาจารย์ก็ครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 343 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
…..แม้จะยังไม่มีบุคคลใดนำเงินไปชำระผู้กระทำก็ได้ลงมือกระทำสำเร็จแล้ว แต่ยังไม่บรรลุผล ผู้กระทำก็มีความผิดฐานพยายามฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 341,343 ประกอบด้วยมาตรา 80 ต้องระวางโทษสองในสามของโทษตามาตรา 343 คือมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี 4 เดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นหกพันหกร้อยหกสิบบาทหกสิบหกสตางค์ หรือทั้งจำทั้งปรับ