ไฟท์บังคับเลือกข้าง “เพื่อไทย” ปลุกแดงเปิดหน้าชกส้มสกัด “ก้าวไกล” ยิ่งยุบยิ่งโต

คำพูดดังกล่าว เหมือนกระแทกใส่หน้า นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทยแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ออกมาสวนหมัดทันควันว่า คิดจะทำการเมืองกระดานใหญ่อย่ายอมแพ้ เอาอะไรมาคิดเลือกข้าง เพื่อไทย จับมือหรือถูกยืมมือกันแน่ ทาง คปท.ยังยืนกรานอุดมการณ์อันคงมั่นว่า ซ้ายสู้ก้าวไกล และ ขวาสู้เพื่อไทย

ขณะที่แนวร่วมพรรคก้าวไกล เริ่มขยับเชียร์ส้มสู้แดงเหมือนกัน อาทิ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศาสดา 3 นิ้ว เชียร์ นายพิธา ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ไปวัดกำลังนายใหญ่เพื่อไทย โดยระบุข้อความว่า ยุบก็ต้องสู้ ไม่ยุบก็ต้องสู้ ถ้าสู้ ก็มีทางรอดตายแต่ไม่สู้ ตายแน่ ๆ หรือแม้แต่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด อวยไส้แตกว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับนายเดชรัต สุขกําเนิด ส.ส.ก้าวไกล จังหวัดถิ่นเกิดนายใหญ่เพื่อไทย โคตรฉลาดรอบรู้จริงเรื่องไฟป่าศึกษามาแล้ว 3 ปี ปัญหานี้แก้ได้สบายมากถ้าได้มีอำนาจในมือเป็นรัฐบาลทำได้ชัวร์

เช่นเดียวกับบิ๊กเนมพรรคเพื่อไทย เริ่มเปิดหน้าชก พรรคก้าวไกล กรณีพรรคก้าวไกลดันไปจัดอีเว้นท์ดับไฟป่าที่จังหวัดเชีงใหม่จังหวะเดียวกับที่นายทักษิณกลับบ้านเกิด หวังประชันเรตติ้งตัวเองเกทับ การกระทำเช่นนั้นเหมือนปีนเกลียวทางการเมือง ครูมานิตย์ หรือ นายมานิตย์ สังข์พุ่ม ถึงกับออกมาเฉ่งยับ นายพิธา ว่า เล่นการเมืองเหมือนนักมายากลแสดงได้สมบทบาททุกเรื่อง ไร้วุฒิภาวะและไร้มารยาททางการเมืองเสียมือเปล่าที่อุตส่าห์โหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ถึงว่าสมควรแล้วที่ชวดได้เป็นแค่นายกฯว่าว

แม้แต่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันยังทนไม่ได้ นางสาวรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาลในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังออกโรงมาสอนมวยนายพิธา ว่า มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เรียนเชิญพรรคก้าวไกลกลับไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านของตัวเองจะดีกว่า

พรรคก้าวไกลเหมือนโดนย้อนศรขณะที่ นายพิธา ลงพื้นที่ก็ยังเจอดีเข้ากับตัวเองที่จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงไปกราบนมัสการ พระครูสมุห์ วิษุวัตร วรกิจจฺโจ เจ้าอาวาสวัดฝายหิน ท่านได้มอบหนังสือธรรมะให้ไปอ่านขัดเกลาจิตใจ พร้อมกับขอบิณฑบาตอย่าคิดล้มล้างสถาบันเบื้องสูงเลย เพราะถ้าไม่คิดเช่นนั้นปานนี้โยมได้เป็นนายกฯสมปราถณาไปนานแล้ว