“รมว.ศุภมาส” สั่งการ “ทีม DSS” วศ.อว. ลงพื้นที่หาสาเหตุคลองน้ำเป็นสีชมพู พบแบคทีเรียซัลเฟอร์และพยาธิอื้อ

“รมว.ศุภมาส” สั่งการ “ทีม DSS” วศ.อว. ลงพื้นที่หาสาเหตุคลองน้ำเป็นสีชมพู พบแบคทีเรียซัลเฟอร์และพยาธิอื้อ

“รมว.ศุภมาส” สั่งการ “ทีม DSS” วศ.อว. ลงพื้นที่หาสาเหตุคลองน้ำเป็นสีชมพู พบแบคทีเรียซัลเฟอร์และพยาธิอื้อ

ข่าวที่น่าสนใจ

19 มีนาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้สั่งการด่วนระหว่างการประชุม ครม. สัญจรที่จังหวัดพะเยา ให้ทีมนักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว (DSS Team)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. นำโดยนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดี วศ. พร้อมด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์ เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำสีชมพูในคูน้ำบริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 55 (ยัวซ่า) หมู่ที่ 5 ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาสาเหตุและให้ข้อแนะนำในการแก้ไขปัญหาโดยด่วน ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาธารณสุขจังหวัด เทศบาลตำบลบางปู เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในชุมชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำเป็นสีน้ำชมพูเกือบทุกวัน บางครั้งเห็นเป็นสีชมพูจากท่อ และได้กลิ่นเหม็นมาก

 

 

 

นางสาวศุภมาสฯ รมว.อว. กล่าวว่า ภายหลังที่ได้ทราบข้อมูลเรื่องน้ำสีชมพูในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนทั้งปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม และได้รับรายงานจากทีม DSS วศ.อว. ว่าคูน้ำดังกล่าวมีระยะทางประมาณ 100 เมตร บริเวณใกล้เคียงเป็นชุมชนและโรงงาน ซึ่งน้ำเป็นสีชมพูและเข้มขึ้นขยายวงกว้าง จึงสั่งการให้ทีม DSS วศ.อว. ได้เร่งทดสอบในห้องปฏิบัติการอ้างอิงเพื่อนำข้อสรุปที่ได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่เร่งแก้ไขและเตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป

 

นายแพทย์รุ่งเรือง อธิบดี วศ. กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทีม DSS วศ.อว. ได้ลงพื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน จากการสังเกตการณ์ในพื้นที่พบว่าคูน้ำมีน้ำเป็นสีชมพูชัดเจน ถ้านำไม้ไปคนเพิ่มเติมจะพบตะกอนสีชมพูที่อยู่ด้านล่างลอยขึ้นมาซึ่งจะทำให้น้ำมีสีชมพูเข้มขึ้น และมีสิ่งสกปรกสะสมในคูน้ำ หลังจากทำการทดสอบด้วยเครื่องวัดคุณภาพน้ำ พบว่า ความเป็นกรดด่างค่าปกติ แต่พบว่าน้ำไม่มีออกซิเจนละลายอยู่เลย จึงทำให้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ไม่ได้ เบื้องต้นได้นำน้ำสีชมพูมาส่องกล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 400 เท่า พบว่ามีแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วงจำนวนมาก รวมถึงไดอะตอม สาหร่ายสีเขียว และพยาธิในน้ำ

 

ขณะนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำจัดสิ่งปฏิกูลที่อยู่ในท้องร่องออกไปก่อน และได้แนะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตั้งเครื่องเติมอากาศเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้เพียงพอต่อการนำไปใช้ย่อยสารอินทรีย์ในน้ำเสียได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างไปตรวจเพิ่มเติมในห้องปฏิบัติการ เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกด้านโลหะหนัก ตะกอน และเชื้อก่อโรค ฯลฯ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. ขอแจ้งเตือนประชาชนห้ามลงสัมผัสน้ำในคูน้ำ รวมถึงห้ามนำน้ำมาใช้อุปโภค บริโภคโดยเด็ดขาด หากมีการสัมผัสน้ำในคูให้รีบทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่โดยทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บังหลินหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงทายาทสิบล้อท้าชกข้ามรุ่นชิงเก้าอี้ สจ.โคราช เดือดแน่
"ดีเจแมน" เปิดใจ หลังได้รับอิสรภาพ กราบเท้าพ่อ-แม่ พร้อมขอเวลาปรับตัวการใช้ชีวิตนอกเรือนจำ
ผอ.สวนสัตว์ ยันชัด “วิทาลิก บูเทอริน” มอบเงิน 10 ล้านจริง สร้างบ้านใหม่ให้หมูเด้ง
“Amazing Coding By Micro bit” .. CONNEXT ED หนุน รร.บ้านหนองกระทุ่ม ชัยภูมิ เรียนรู้โค้ดดิ้ง
ตร.สอบปากคำเข้ม "เจ้าของงานเลี้ยง-ลูกชาย" ปมจ้าง "แบงค์ เลสเตอร์" 3 หมื่นให้ดื่มเหล้าเพียวจนเสียชีวิต
อิสราเอลทิ้งระเบิดใส่รถนักข่าวในกาซา
เปิดภาพวงจรปิด แม่สะพายลูกวัย 4 เดือน ขี่รถจยย.ชนท้ายรถบรรทุก แม่ดับ-ลูกสาหัส
คู่หู ‘มนุษย์หิมะ’ ยักษ์ ยิ้มแย้มต้อนรับในจีน
ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นถอดถอนรักษาการณ์ปธน.
หลายประเทศเอเชียจัดพิธีรำลึก 20 ปีสึนามิพัดถล่ม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น