“อีซูซุ” รุกเต็มรูปแบบ นวัตกรรมรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมโลก

"อีซูซุ" รุกเต็มรูปแบบ นวัตกรรมรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมโลก

อีซูซุ” รุกเต็มรูปแบบ นวัตกรรมรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมโลก

กำลังเป็นกระแส สำหรับนวัตกรรมรถยนต์พลังงานสะอาด ล่าสุด อีซูซุ ผู้นำด้านรถเพื่อการพาณิชย์ระดับโลกมากว่า 8 ทศวรรษ แถลง “นโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลกและระดับประเทศ” ผ่าน “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรับมือกับโลกยานยนต์อนาคต

โดย มร.ทาคาชิ โอไดระ กรรมการผู้จัดการ และรองประธานบริหารรับผิดชอบด้านวิศวกรรม และกลยุทธ์ความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า หลังจาก อีซูซุได้ประกาศเป้าหมาย “สร้างเสริมการขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์ของโลก” (Creating the Movement of the Earth) เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2566 ด้วยตระหนักว่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลกอยู่ในยุคการเปลี่ยนผ่านในรอบศตวรรษ ดังนั้นรถเพื่อการพาณิชย์ก็จำเป็นต้องเข้าสู่แผนพัฒนาด้วยเช่นกัน

 

อีซูซุ

 

ดังนั้นในปี 2567 อีซูซุ จึงขอส่งมอบความมั่นใจและความอุ่นใจให้กับลูกค้า ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ และรถเครื่องยนต์ดีเซลหลากชนิด ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง การให้บริการการบริหารจัดการระบบปฏิบัติการ และบริการหลังการขายต่างๆ ที่ถือเป็นคุณค่าผลิตภัณฑ์สำคั
ญ 3 ด้าน ประกอบด้วย

1.ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendliness) ผลิตภัณฑ์อีซูซุต้องสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

2.ความเป็นมิตรกับผู้ใช้รถ (User Friendliness) คุณค่าของ “การตระหนักถึงสังคมที่สามารถขนส่งผู้คนและสินค้าได้อย่างปลอดภัย มั่นคง และมีประสิทธิภาพ”

3. ความน่าเชื่อถือและความต่อเนื่องในการดำเนินงาน (Reliable and Continuous Operation) ด้วยการนำเสนอรถเพื่อการพาณิชย์ที่แข็งแกร่งทนทานและเชื่อถือได้ รวมทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของลูกค้า

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ทั้งนี้อีซูซุกำลังเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์แบบครบวงจร เพื่อนำเสนอ “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) เพื่อให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะด้านที่แตกต่างกันของลูกค้าทั่วโลก ขณะนี้ “แผนงานด้านสิ่งแวดล้อมปี 2573” โดยมีเป้าหมายที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ทั้งรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ รถปิกอัพ และรถบัสโดยสาร ภายในปี 2573”

สำหรับประเทศไทย อีซูซุวางแผนจะผลิตรถปิกอัพไฟฟ้าเพื่อส่งออก ซึ่งเริ่มจากประเทศในโซนยุโรปในปี 2568 และทยอยเปิดตัวในประเทศอื่นๆ ตามกฎระเบียบและความคืบหน้าด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนของแต่ละประเทศ

โดยอีซูซุจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท ในด้านการวิจัยและพัฒนาภายในปีงบประมาณ 2573 เพื่อดำเนินการเรื่องการปฏิรูปทางดิจิทัลเกี่ยวกับความเป็นการทางคาร์บอนและโลจิสติกส์ (CN and logistics DX) อีกทั้งการสร้างศูนย์พัฒนาและทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “The EARTH Lab” ภายในปี 2569

 

 

“เรามั่นใจว่าการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจปัจจุบัน และการลงทุนเชิงรุกในครั้งนี้จะรักษาความเป็นผู้นำตลาดไว้ได้อย่างมั่นคงในระยะสั้นถึงระยะกลาง และจะเป็นการเสริมสร้างรากฐานสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวของเรา อีซูซุจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของโลกโดย “สร้างเสริมการขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์ของโลก”

 

ส่วนนโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก มีการผลิตรถยนต์ต่อปีมากถึง 1.8 – 1.9 ล้านคัน สูงที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 10 ของโลก ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ และการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก

แยกเป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engines : ICE) เกือบทั้งหมด โดยในปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 9.73 แสนล้านบาท และรถปิกอัพ เป็นรถที่ส่งออกมากที่สุดถึง 786,383 คัน คิดเป็น 70% จากรถทุกประเภท

 

 

“นับจากนี้ไป อีซูซุในฐานะผู้นำรถเพื่อการพาณิชย์ของประเทศไทยพร้อมเดินหน้าสนับสนุนนโยบายรัฐบาลไทยในการมุ่งสู่สังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Society) ในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608 ตลอดจนสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน ด้วยแนวคิด “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality)”

 

 

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เน้นย้ำว่า การนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ซับซ้อน และแตกต่างจากรถยนต์นั่ง ต้องพิจารณาถึงการใช้งานเชิงพาณิชย์และส่วนตัว อีซูซุจึงพัฒนารถที่มี “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) โดยไม่ใช่เพียงแต่รถไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) หรือรถไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (FCEV) เท่านั้น แต่หมายรวมถึงพลังงานอื่นๆ เช่น การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral Fuel) กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน อาทิ น้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่จากพืชใช้แล้ว (HVO – Hydrotreated Vegetable Oil) และ น้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (e-Fuel) เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้รถอีซูซุอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น