"อีสท์วอเตอร์" โดนร้องอีก เจาะท่อส่งน้ำใหม่ กระทบทรัพย์สิน "กรมธนารักษ์" เสียหาย

“อีสท์วอเตอร์” โดนร้องอีก เจาะท่อส่งน้ำใหม่ กระทบทรัพย์สิน “กรมธนารักษ์” เสียหาย

ยังเป็นปัญหาต่อเนื่อง จากผลกระทบการก่อสร้างท่อน้ำมูลค่ากว่า 4,200 ล้านบาท ของ บมจ.อีสท์ วอเตอร์ เพื่อทดแทนท่อส่งน้ำเดิม ที่หมดอายุสัมปทานไปก่อนหน้า และทรัพย์สินของ “กรมธนารักษ์” ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง ในฐานะผู้ชนะการประมูล จัดให้เช่า/บริหาร ระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ประกอบด้วยพื้นที่หลัก ๆ คือ ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี , ระยอง ,

ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ระบุว่า ได้ลงทุนสร้างระบบสำรองน้ำ เอาไว้ทั้งหมด 11 โครงการ ในช่วงเส้นทางหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร

หลังจากปลายปี 2565 “บมจ.อีสท์ วอเตอร์” ดำเนินการก่อสร้างระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำ 2 เส้นหลัก ได้แก่ ท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง และ ท่อส่งน้ำมาบตาพุด-สัตหีบ เพิ่มเติมอีกราว 120 กิโลเมตร พร้อมสถานีสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้มีความสามารถในการสูบส่งประมาณ 350,000 ลบ.ม. ต่อวัน ในลักษณะโครงข่ายท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ หรือ Water Grid ความยาวรวม 512 กิโลเมตร เพื่อให้บริการลูกค้าและรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม

ข่าวที่น่าสนใจ

และ Top News เคยนำเสนอข้อมูลตรวจสอบ พบว่า โครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง และโครงการสถานีเพิ่มแรงดันหนองปลาไหล มูลค่ากว่า 4,200 ล้านบาท ของ “บมจ.อีสท์วอเตอร์” มีข้อพิรุธหลายประเด็น เนื่องจากมติของบอร์ด อีสท์วอเตอร์ มีการปรับหลายเงื่อนไขการประกวดราคา และการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน อาทิเช่น

1) จำนวนรายผู้เสนอราคาที่เรียกเชิญเข้ายื่นเสนอราดาอาจน้อยกว่า 5 ราย และ/หรือจำนวนราย ที่ผ่านเกณฑ์ เพื่อเปีดซองเสนอราคาอาจน้อยกว่า 3 ราย
2) การเพิ่มผู้มีสิทธิเสนอราคาบางราย นอกเหนือจากผู้มีสิทธิเสนอราคาตาม AVL ของบริษัทฯ ที่มีความพร้อมและสามารถทำงานที่ประกวดราคาจ้างตามเกณฑ์ข้อกำหนดใน TOR ได้
3) การยกเว้นข้อกำหนดเรื่องมูลค่างานตามสิทธิในการเสนอราคา ของผู้มีสิทธิเสนอราคาตามเกรด AVL ของบริษัทฯ โดยใช้เกณฑ์ตามข้อกำหนดใน TOR แทน
4) การแข่งงานดันท่อลอดในโครงการเป็นหลายสัญญาย่อย เพื่อให้มูลค่าสัญญามีขนาดที่เหมาะสมกับผู้รับจ้างงานดันท่อลอด และให้มีการวางหลักประกันสัญญาพร้อมทั้งหักเงินประกันผลงานตามระเบียบบริษัท

อย่างไรก็ตาม “บมจ.อีสท์วอเตอร์” ยังคงดำเนินก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง และโครงการสถานีเพิ่มแรงดันหนองปลาไหล มาโดยต่อเนื่อง แต่ระหว่างนั้นมีข้อร้องเรียนของชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากความล่าช้าของการก่อสร้างท่อส่งน้ำดังกล่าวมาเป็นระยะ รวมถึงการ เข้าแจ้งความของ “วงษ์สยามก่อสร้าง” เกี่ยวกับปริมาณน้ำจากท่อส่งที่หายไป และพบว่าทาง “บมจ.อีสท์วอเตอร์” ได้มีการต่อท่อน้ำออกไปโดยไม่แจ้ง “วงษ์สยามก่อสร้าง”

ล่าสุด Top News ได้รับการร้องเรียนเพิ่มเติม จากปัญหาการก่อสร้างท่อส่งน้ำของ “บมจ.อีสท์วอเตอร์” โดยเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในเขตทางหลวงแผ่นดิน “ระยอง-สัตหีบ” หมายเลข 3 กม. ที่ 184 + 950 ตามรายงานระบุว่า ทางผู้รับเหมาที่ได้รับว่าจ้างจาก บมจ.อีสท์วอเตอร์ ดันลอดท่อส่งน้ำใหม่ ไปโดนท่อเหล็ก 700 ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบ “วงษ์สยามก่อสร้าง” จนแตกเสียหาย ตั้งแต่ไหล่ถนนลงลึกไปถึงกลางท่อลึกระยะ 8.50 เมตร จนมีน้ำไหลทิ้งนานกว่า 3 เดือน โดยไม่ได้การแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้อีกฝ่ายรับทราบ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นทางทีมข่าวจะได้มีการติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป

กรมธนารักษ์, อีสท์วอเตอร์, ท่อส่งน้ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง