สุดช็อก "ฉ้อโกงเงินประกัน" หนุ่มไต้หวัน ลงทุนแช่ขาในน้ำแข็งแห้ง 10 ชม. หวังเคลมเงินประกัน เนื้อตายและติดเชื้อ ต้องตัดขา 2 ข้าง เพื่อเงินกี่บาท
ข่าวที่น่าสนใจ
เจ็บตัวแลกเงินประกัน?
เป็นข่าวดังเมื่อปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 เมื่อตำรวจกองปราบฯ รวบแก๊งสุดโหด “ฉ้อโกงเงินประกัน” สร้างเรื่อง ลงทุนเจ็บจริง เอากระดาษทรายถูแขนให้ถลอก ใช้น้ำร้อนลวกขา ใช้สากทุบนิ้วก้อยจนแตก เป็นต้น
โดย หนึ่งในแก๊งฉ้อโกงประกันภัย ที่สร้างเรื่องหลอกเงินเคลมประกันอุบัติเหตุกับบริษัทประกันภัย ยอมรับสารภาพ บอกว่า ได้รับการชักชวนจากหัวหน้าทีมที่เป็นตัวแทนขายประกันให้ทำประกันอุบัติเหตุ ทีเดียว 5 – 6 บริษัท และสร้างเรื่องว่าประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ล้ม แต่ความจริงแล้ว ใช้กระดาษทรายถูตามแขนตามตัวให้เป็นแผลถลอก และใช้สากทุบนิ้วก้อยจนกระดูกแตก และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล โดยได้ส่วนแบ่งจากหัวหน้าทีมเป็นเงิน 60,000 บาท แยกเป็นค่ารักษา 30,000 บาท และค่านอนในโรงพยาบาลคืนละ 5,000 บาท รวม 6 คืน แต่จำนวนค่าสินไหมทดแทนที่เหลือ ทางหัวหน้าทีมซึ่งเป็นคนทำเรื่องเบิกเงินและถอนเงินเอาไป ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ เพราะหลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
หนึ่งในแก๊งฉ้อโกงประกันภัย บอกว่า เงินที่ได้มาจำนวน 60,000 บาท เอาไปเล่นพนันวันเดียวหมดเกลี้ยง ทั้งนี้ บางคนลงทุนถึงขนาดเอาน้ำร้อนลวกขาทั้งสองข้างเพื่อสร้างเรื่องให้เป็นอุบัติเหตุเพื่อเอาเงินประกันก็มี
ตำรวจกองปราบ เผยว่า แก๊งฉ้อโกงประกันภัยแก๊งนี้ ทางบริษัทประกันภัยหลายบริษัทนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบ ระหว่างปี 2559 – 2560 เพื่อให้สืบสวนและจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเนื่องจากพบความผิดปกติที่มักจะเกิดอุบัติเหตุพร้อมกันหลายเคส
ตำรวจกองปราบ ใช้เวลาสอบสวนพอสมควรเพราะเชื่อมโยงหลายฝ่าย จนรู้ตัวและพบความเชื่อมโยงแก๊งนี้ทั้งหมด โดยมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด 18 คน ในจำนวนนี้เป็นหัวหน้าทีมที่เป็นตัวแทนขายประกัน 3 คน
วิธีการเริ่มจากหาคนมาทำประกันอุบัติเหตุกับบริษัทประกันภัยต่าง ๆ คนละหลายกรมธรรม์ บางคน 6 กรมธรรม์ บางคน 10 กรมธรรม์ แล้วสร้างเรื่องให้เกิดอุบัติ เช่น ทำเป็นอุบัติเหตุรถล้ม เอาน้ำร้อนราดขา เอาน้ำแกงส้มร้อน ๆ ราดมือราดตัว หรือตกจากรถเพื่อให้ดูเหมือนว่าเกิดอุบัติเหตุ แล้วพาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และทำเรื่องเบิกค่าสินไหมทดแทนกับทางบริษัทประกัน โดยจะแบ่งให้กับผู้ทำประกันส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งหัวหน้าทีมที่เป็นตัวแทนขายประกันก็จะเอาไป
ตัดขา 2 ข้างแลกเงินกี่บาท?
ผู้ต้องสงสัย “ฉ้อโกงเงินประกัน” ที่สื่อไต้หวันระบุเพียงนามสกุลว่า จาง รุดไปยังแผนกฉุกเฉินในเช้าตรู่วันหนึ่งของเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และหมอต้องตัดขาตั้งแต่ใต้เข่าลงไปทั้งสองข้าง เพราะผิวหนังถูกทำลายจากความเย็นจัด หรือ ฟรอสต์ไบต์ ระดับ 4 เนื้อตายและติดเชื้อ จางบอกกับโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาว่า เขาได้รับบาดเจ็บระหว่างขี่รถจักรยานยนต์เดินทางไปทางเหนือของไต้หวัน ท่ามกลางอากาศเย็นจัด
หลังสูญเสียขา 2 ข้าง ก็ยื่นคำร้องขอค่าชดเชยจากบริษัทประกันภัยที่ทำไว้ 8 ฉบับ รวมเป็นเงิน 41 ล้าน 2 แสน 6 หมื่นดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 46 ล้านบาท เขาได้รับเงินมาบางส่วน แต่บริษัทประกันอีกจำนวนหนึ่งไม่จ่าย เพราะพบพิรุธจากวันที่ซื้อประกันกับวันที่เคลมเงิน ใกล้กันอย่างน่าสงสัย
ผลสอบสวนในเวลาต่อมา พบว่า จาง กับ เหลียว ซึ่งเป็นเพื่อนและผู้สมรู้ร่วมคิด อายุ 24 ปี เท่ากัน ร่วมกันวางแผน ผู้ต้องสงสัยเจตนาแช่เท้าทั้งสองข้างในถังที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งแห้ง เป็นเวลา 10 ชั่วโมง
ในคำฟ้องกล่าวหา จาง และ เหลียว ออกไปซื้อน้ำแข็งแห้งด้วยกัน และใช้เคเบิลไทร์ หรือสายรัดสายไฟ มัด จาง ติดเก้าอี้ขณะนั่งแช่เท้า เขาทนเจ็บทนทรมานตั้งแต่เวลาตี 2 จนถึงเที่ยงของอีกวัน คือ 27 มกราคม ปีที่แล้ว เหลียว บันทึกคลิปและถ่ายรูปเหตุการณ์นี้ไว้เอง ก่อนนำตัวเพื่อนส่งโรงพยาบาล
หลังถูกตัดขาและพักฟื้น 1 สัปดาห์ ก็เริ่มเคลมเงินประกัน และประสบความสำเร็จเมื่อบริษัทแห่งหนึ่ง จ่ายชดเชยให้ประมาณ 2 แสน 6 หมื่นบาท แต่อีก 4 บริษัท ปฏิเสธ ภายหลัง ทั้ง 5 บริษัทที่ จาง ซื้อประกันไว้ก็พากันเข้าแจ้งความ
สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางไต้หวัน หรือ CIB เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ว่า พนักงานสอบสวนพบความผิดปกติหลายอย่าง รวมถึงการที่ จาง ซื้อประกันที่ให้วงเงินชดเชยสูงจากบริษัทหลายแห่งไม่นานนักก่อนบาดเจ็บ และการอ้างว่าโดนหิมะกัดในระหว่างเดินทางขึ้นเหนือ ก็ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากไต้หวันไม่เคยพบกรณีถูกหิมะกัดรุนแรงขนาดต้องตัดขา ประกอบข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวัน ระบุว่า ในวันที่อ้างว่าเย็นยะเยือก อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 6 – 17 องศาเซลเซียส จึงยิ่งเป็นไปไม่ได้ กับอาการบาดเจ็บของ จาง ที่จะต้องเกิดจากการอยู่ในอุณหภูมิติดลบ
นอกจากนี้ ภาพถ่ายจากโรงพยาบาลที่รักษา ยังพบการบาดเจ็บที่ขาเท่ากันสองข้าง ซึ่งผิดปกติสำหรับอาการนี้ และเมื่อเข้าตรวจค้นห้องพัก เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ก็พบของกลาง เป็นกล่องโฟมที่เคยใช้ใส่น้ำแข็งแห้ง ก่อนเทลงถังพลาสติกใช้แช่เท้า
สุดท้าย ทั้งสองจึงตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกงเงินประกัน และพยายามฉ้อโกงเงินประกัน ต้องขึ้นศาลและรับโทษต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง