ฮือฮา "ล้างป่าช้า" หลังฝังศพมานานกว่า 20 ปี ขุดขึ้นมาเจอ อาจารย์ทอง - กุมารทอง พร้อมกัน จริงหรือ ผลบุญกุศลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้เข้าร่วม
ข่าวที่น่าสนใจ
พิธี “ล้างป่าช้า” ?
ในช่วงต้นปี เรามักจะเห็น มูลนิธิและศาลเจ้าต่าง ๆ จัดงานเก็บศพไร้ญาติ หรือพิธีล้าง ป่าช้า ขึ้นมา เพื่ออุทิศส่วนกุศลทำพิธีส่งวิญญาณศพไร้ญาติสู่สรวงสวรรค์ ถือเป็นมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าหากใครได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งจะถือเป็นการทำบุญครั้งใหญ่เลยทีเดียว
พิธีกรรมล้าง ป่าช้า ได้รับอิทธิพลจากชาวจีนโพ้นทะเล ตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งชาวจีนประสบอุทกภัยร้ายแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และได้มีนักบวชรูปหนึ่งได้เก็บศพมาทำพิธีเพื่อส่งวิญญาณขึ้นสวรรค์ โดยไม่มีท่าทีรังเกียจร่างกายที่เน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น และเมื่อชาวจีนได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทย ก็ได้นำประเพณีเข้ามาด้วย หลังจากนั้นก็ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณีจนถึงปัจจุบัน
สำหรับ การเตรียมตัวของผู้ที่ต้องการเข้าร่วมพิธี ต้องถือศีลกินเจ อย่างน้อย 3 – 5 วัน หรือ 7 วัน 9 วัน เพื่อให้ร่างกายสะอาด และเพื่อปกป้องตนเองจากแรงอาถรรพณ์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่เรามองไม่เห็น ต้องนุ่งขาวห่มขาวรักษาศีลกินเจอย่างเคร่งครัด
โดยขั้นตอนของพิธีกรรมจะเริ่มตั้งแต่การเปิดป้ายอัญเชิญกระถางธูปศักดิ์สิทธิ์ การเก็บศพไร้ญาติ ปิดป่าช้า ตลอดไปจนถึงการประชุมเพลิงและเก็บเถ้ากระดูก นำชิ้นส่วนกระดูกมาคัดแยกเรียงเป็นรูปร่างเดิม มีแขน มีขา มีศีรษะครบถ้วน ก่อนจะช่วยกันหยิบชิ้นส่วนกระดูกมาล้างด้วยน้ำเปล่า พร้อมทำความสะอาดด้วยแปรงปัดฝุ่น การขุดหาศพต่าง ๆ ทุกคนล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันและช่วยกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยมีความเชื่อในเรื่องของการเรียกชื่อศพที่ขุดขึ้น ดังนี้
โดยศพที่เน่าเปื่อยหรือย่อยสลายแล้ว เรียกว่า ศพแห้งหรือทองแท่ง เนื่องจากกระดูกยังเป็นแท่ง ๆ จึงเรียกชื่อนี้เพื่อเป็นมงคล
ส่วนศพที่ยังไม่เน่า ไม่เปื่อย เรียกว่า อาจารย์ทอง เทพบุตร หรือ นางฟ้า และหากเป็นเด็กชายก็เรียก กุมารทอง เป็นเด็กหญิง ก็เรียกว่า กุมารี
ฮือฮาป่าช้าแทบแตก?
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2567 ที่ สุสานสุขนิรันดร์ ริมถนนสุขุมวิท ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้มีพิธี “ล้างป่าช้า” โดยมูลนิธิพุทธธรรมสงเคราะห์ อ.บ้านฉาง ได้ร่วมกับ มูลนิธิสว่างพรกุศล จ.ระยอง และสาธุชนคนใจบุญ ดำเนินการขุดศพไร้ญาติ จำนวน 76 หลุม ในงานมหากุศลเก็บศพไร้ญาติล้างป่าช้าครั้งที่ 5 มีจำนวนผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน
ซึ่งศพทั้งหมดนั้นทาง มูลนิธิพุทธธรรมสงเคราะห์ อ.บ้านฉาง ได้ทำเป็นหลุมโบกปูนซีเมนต์เก็บศพไว้เกือบ 20 ปี จึงกำหนดให้มีพิธีกรรมล้าง ป่าช้า เก็บศพไร้ญาติตามความเชื่อของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนว่า ทำการขุดศพไร้ญาติขึ้นมาบำเพ็ญกุศล และอัญเชิญดวงวิญญาณมาประกอบพิธีทางศาสนาทั้งไทยและจีน เพื่อให้ดวงวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไป
โดยการขุดศพไร้ญาติที่อยู่ท้ายป่าช้าขึ้นมานั้น ที่ฝาโลงเขียนระบุ อายุ 64 ปี เป็นชาวต่างด้าว ปรากฏเพศชายกายสมบูรณ์ หรือที่เรียกว่า อาจารย์ทอง 1 ร่าง และอีกหลุมพบศพ อายุ 2 เดือน ชื่อว่าน้องบีม ไม่เน่าเปื่อย สภาพสมบูรณ์อีก 1 ร่าง ที่เรียกกันว่า กุมารทอง เรียกเสียงฮือฮา ป่าช้าแทบแตก เพราะสุดจะเหลือเชื่อกับสิ่งที่พบเจอพร้อมกันทั้ง อาจารย์ทอง และ กุมารทอง โดยเชื่อว่า หากป่าช้าที่ใดพบร่าง อาจารย์ทอง และ กุมารทอง พร้อมกัน ป่าช้านั้นจะส่งผลบุญกุศลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้ร่วมขุดศพที่หาไม่ได้ง่าย ๆ
หลังทำความสะอาดเสร็จ สาธุชนผู้แสวงบุญได้ช่วยกันแห่ร่างทั้ง 2 มาเวียนรอบที่สถิตดวงวิญญาณผู้ไร้ญาติขาดมิตร ก่อนนำร่าง อาจารย์ทอง ขึ้นรถหมายเลขทะเบียน 5270 ขณะที่ ร่าง กุมารี ขึ้นรถหมายเลขทะเบียน 9721 ส่วนรถบรรทุกถุงผ้าบรรจุกระดูก ขึ้นรถหมายเลขทะเบียน 0589 ไปบำเพ็ญกุศลทางพิธีกรรมงานล้าง ป่าช้า ที่มูลนิธิสว่างพรกุศล จ.ระยอง
พิธีล้าง ป่าช้า บางคนอาจจะมองว่าทำไปทำไม ทำไปแล้วศพเหล่านั้นก็ไม่ได้มีอะไรมาตอบแทน แต่บางคนก็มองว่า การล้าง ป่าช้า เป็นมหากุศลที่ยิ่งใหญ่ เพราะศพไร้ญาตินั้นขาดพวกพ้อง พี่น้อง เพื่อนฝูง เชื่อกันว่า ดวงวิญญาณจะโดดเดี่ยว ไม่มีแม้เสียงพระสวดส่งวิญญาณ ไม่มีใครทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ การที่เราทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ ก็จะได้รับผลบุญที่ตามมา เป็นประโยชน์ทั้งทางกาย ทางจิตใจ และทางสังคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง