ใกล้เส้นตาย “ยุบพรรคก้าวไกล” เอ็นจีโอต่างชาติขยับถล่ม “กกต.-ศาลรธน.” จุ้นกิจการภายในล้ำเส้นกฎหมายไทย

ใกล้เส้นตายยุบ "ก้าวไกล" เอ็นจีโอต่างชาติขยับถล่ม "กกต.-ศาลรธน." จุ้นกิจการภายในล้ำเส้นกฎหมายไทย

TOP News รายงานประเด็นร้อน ใกล้เส้นตายเข้ามาทุกขณะสำหรับคดี “ยุบพรรคก้าวไกล” ข้อหาล้างการปกครองภายหลังศาลรัฐธรรมนูญกระทุ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เร่งมือส่งงานเอกสารหลักฐานให้ครบโดยเร็ว ร้อนก้น นายแสวง บุญมีเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องเร่งไปตรวจสอบพบว่าเอกสารที่ไม่ครบดังกล่าวเป็นเอกสารประกอบคำร้องที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นร้องต่อ กกต.ขอให้ยุบพรรคก้าวไกล โดย กกต. เห็นว่าคำร้องของ นายเรืองไกร และเอกสารประกอบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนจึงได้ส่งเอกสารทั้ง 2 ส่วนนี้ไปในทันทีโดยไม่ล่าช้า แต่ที่น่าประหลาดคือท่าทีองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอต่างชาติที่แสดงท่าทีล้ำเส้นและจุ้นกิจการภายในประเทศไทย ด้วยการออกแถลงการณ์โดย สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ APHR โดย เคลวิน ยี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซียและสมาชิก APHR ส่งจดหมายข่าวแจ้งถึงความกังวลต่อกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ของไทย ยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกลต่อศาลรัฐธรรมนูญ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง โดยอ้างว่า การเสนอให้พิจารณากฎหมายซึ่งเป็นแกนหลักในการทำงานของรัฐสภาว่าเป็นความพยายามล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เป็นเรื่องที่ขัดกับสามัญสำนึกและยังเป็นการบ่อนเซาะกระบวนการทางรัฐสภา สมาชิกรัฐสภาจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบและถ่วงดุลย์ได้อย่างไรถ้าพรรคการเมืองเสี่ยงที่จะถูกยุบตลอดเวลา

สมาชิก APHR ยังระบุอีกว่า การพยายามยุบพรรคก้าวไกลนั้นไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิต่อนักการเมืองของพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่ยังเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของประชาชนไทย 14 ล้านคนที่เลือกพรรคก้าวไกลด้วยและชัดเจนว่าเป็นการบ่อนทำลายประชาธิปไตยของไทยด้วย ในแถลงการณ์ได้เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญยึดถือเจตจำนงค์ประชาชนไทยและปกป้องประชาธิปไตยด้วยการไม่รับคำร้องของ กกต.ที่ไร้สาระนี้

อย่างไรก็ดีการออกแถลงการณ์กดดันแทรกแซงกิจการภายในของไทยและกระบวนการยุติธรรมไทยของสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ทำมาหลายครั้งแล้ว เช่น มิถุนายน 2558 ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติข้อกล่าวหาทั้งหมดและปล่อยตัวนักศึกษาที่ถูกจับโดยทันที , พฤษภาคม ปี 2562 ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการไทยหยุดคุกคามนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น และ เคยออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ยุติการใช้กระบวนการยุติธรรมคุกคามฝ่ายค้าน ยกเลิกการจำกัดเสรีภาพขั้นพื้นฐานและรับรองความปลอดภัยของนักกิจกรรมสิทธิมนุษยชนโดยทันที

ท่าทีของเอ็นจีโอต่างชาติที่จุ้นกิจการภายในประเทศไทยลักษณะนี้คล้ายพฤติกรรมของ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่สนับสนุนและให้ท้ายการเคลื่อนไหวของขบวนการ 3 นิ้ว ถึงขนาด ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” เคยแฉว่ามีพรรคการเมืองสามนิ้วกับเอ็นจีโอต่างชาติที่อยู่เบื้องหลัง คอยสนับสนุนการเคลื่อนไหวม็อบ 3 นิ้วอนาธิปไตย ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

หรือแม้แต่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยังเคยซัดเต็มข้อใส่ แอมเนสตี้ ว่าเป็นเอ็นจีโอต่างขาติที่ไร้มารยาทออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัว นายอานนท์ นำพา นักกิจกรรมและทนายความม็อบ 3 นิ้ว ถือว่าเป็นการก้าวล่วงกฎหมายไทย เพราะข้อกฎหมายในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เราไปประเทศไหนต้องเคารพกฎหมายประเทศนั้น อยู่ประเทศไทยต้องเคารพกฎหมายประเทศไทย เรื่องนี้ละเอียดอ่อน เอ็นจีโอต่างชาติไม่สมควรเข้ามาอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน เข้ามาก้าวก่ายและแทรกแซงจากกิจการภายในประเทศอื่นไม่มีชาติไหนเขาทำกัน

หากจำกันได้ “นายเสกสกล อัตถาวงศ์“อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรียุค “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะความที่เคยเป็นอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. มาก่อนย่อมรู้ไส้รู้พุงการเคลื่อนไหวของม็อบข้างถนนเป็นอย่างดี จึงกล้าออกมาเปิดศึกกับ แอมเนสตี้ เพราะทนไม่ได้ที่เห็นเอ็นจีโอต่างชาติเคลื่อนไหวลักษณะหนุนหลังกลุ่มม็อบ 3 นิ้วทำผิดกฎหมาย ก้าวล่วงสถาบัน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งนี้นานาชาติเข้าใจดีว่าสถานการณ์ประเทศ และกฎหมายไทยเป็นอย่างไร แต่กลับมีคนไทยด้วยกันเองโดยเฉพาะ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ไม่เข้าใจกฎหมายไทย

นายเสกสกล เดินหน้าชนแทนประชาชนคนไทยที่รักเคารพสถาบัน ต้องดำเนินการทางกฎหมาย ตรวจสอบและกดดันขับไล่องค์กรนี้ออกไปจากประเทศไทย โดยจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำลายประเทศชาติ และสถาบันเด็ดขาด และในระยะยาวต้องออกกฎหมายควบคุมเอ็นจีโอต่างชาติ เพื่อให้เหมือนกับในต่างประเทศ อย่างเช่น การขึ้นทะเบียนควบคุม การแจ้งที่มาของแหล่งเงินทุน เพราะไม่รู้ว่าใครมาดี มาร้าย หากมาร้ายก็ต้องกำจัดออกจากประเทศไป พรรคก้าวไกล ควรที่จะเข้าใจในเรื่องนี้ ไม่ใช่ไปเข้าข้างองค์กรที่เข้ามาทำลายชาติบ้านเมืองตัวเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น