กลต.อินโดนีเซียประกาศรับรองผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ นายพลปราโบโว คว้าตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ขณะ2 คู่แข่ง เตรียมร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้ง
คณะกรรมการเลือกตั้งอินโดนีเซียประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ ให้การรับรองพลโท ปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกลาโหมวัย 73 ปีเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของอินโดนีเซีย ประเทศประชาธิปไตยใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งตัวเขาและนาย กีบราน รากาบูมิง รากา คู่หูผู้สมัครรองตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตวัย 36 ปี ของโจโก วิโดโด ได้ประกาศชัยชนะเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ
นาย ฮาชิม อาชารี ประธานกลต.ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีชาวอินโดนีเซียลงคะแนนเสียงมากกว่า 164 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด โดยปราโบโวและกีบราน กวาดคะแนนไปได้มากกว่า 96 ล้านเสียง หรือประมาณร้อยละ 58.6 ซึ่งเพียงพอที่จะได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งเพียงรอบเดียว ส่วนคู่แข่งทั้ง 2 คือ นายอานีส บาสเวดัน อดีตผู้ว่าการจาการ์ตา และ นายกันจาร์ ปราโนโว อดีตผู้ว่าการชวากลาง ได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 24.9 และร้อยละ 16 ตามลำดับ
หลังการประกาศผล ปราโบโวได้ขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้งในกรุงจาการ์ตา ท่ามกลางการแสดงความยินดีของผู้สนับสนุน เขากล่าวขอบคุณชาวอินโดนีเซียและพรรค ที่ช่วยให้เขาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของประเทศ
ด้านนาย แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวแสดงความยินดีกับปราโบโวทันที โดยกล่าวว่าสหรัฐตั้งตารอที่จะเป็นพันธมิตรอย่างใกล้ชิดกับอดีตนายพลรายนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกขึ้นบัญชีดำวีซ่าของสหรัฐ
ส่วนคู่แข่งทั้งสอง ทั้งอานีสและกันจาร์ ก็ออกมาประกาศว่า จะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องความผิดปกติของการเลือกตั้งและการฉ้อโกง โดยพวกเขามีเวลาสามวันในการยื่นเรื่องร้องเรียนตั้งแต่วันพุธ
สำหรับ ปราโบโว นั้นลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่เคยพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้ประธานาธิบดี วิโดโด มาแล้ว 2 ครั้ง ขณะที่ วิโดโด เองหันมาใช้ยุทธศาสตร์หนุนหลังอดีตคู่แข่ง เพื่อปูทางส่งมอบอำนาจต่อให้นายกีบราน วิโดโด ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำมาแล้ว 2 สมัยและไม่สามารถลงเลือกตั้งได้อีก ไม่เคยประกาศชัดเจนว่า สนับสนุนผู้สมัครคนใด แต่การที่เขาส่งบุตรชายเป็นคู่หูชิงรองประธานาธิบดีคู่กับ ปราโบโว ถือเป็นสัญญาณหนุนหลังกลายๆ ที่ช่วยให้เพิ่มคะแนนนิยมให้แก่รัฐมนตรีกลาโหมผู้นี้มาถึงฝั่งฝันในที่สุด