ธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ขณะส่งสัญญาณว่าน่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งในปีนี้
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ลงมติเมื่อวันพุธให้คงอัตราดอกเบี้ย ไว้ที่ระดับร้อยละ 5.25 ถึงร้อยละ 5.50 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี และเป็นการคงดอกเบี้ยในการประชุม 5 ครั้งติดต่อกัน ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณ ว่าน่าจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งได้ในปีนี้
ปีที่แล้ว นโยบายของเฟดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ โดยอัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างมาก จากระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปีที่เกิดขึ้นในปี 2565 ไปสู่เป้าหมายระยะยาว 2 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องการ ในขณะที่สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิด
แต่ปี 2567 ถือเป็นปีที่มีความท้าทายมากขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อรายเดือนเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้เกิดความกังวลอีกครั้งว่า อัตราดอกเบี้ยจะต้องคงอยู่ในระดับสูงต่อไป เพื่อควบคุมเงินเฟ้อดังกล่าว นายเจอร์โรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมว่า แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน และเงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูงเกินไป จึงมองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะยังไม่มีการปรับลดดอกเบี้ย จนกว่ามีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เงินเฟ้อกำลังปรับตัวสู่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ FOMC ยังคงประมาณการว่า ดอกเบี้ยสิ้นปีนี้จะอยู่ระหว่าง 4.50 ถึง 4.75 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า คณะกรรมการยังคงคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ย 0.75 เปอร์เซ็นต์ก่อนสิ้นปี ซึ่งอาจตีความได้ว่า เฟดจะประกาศปรับลดดอกเบี้ย 0.25 เปอร์เซ็นต์ทั้งหมด 3 ครั้ง อีกทั้งตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นภายในกลางเดือนมิถุนายน หรือภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้เฟดยังอัปเดตการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจในวันพุธ โดยยกระดับแนวโน้มการเติบโตของสหรัฐในปีนี้ เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 2.1 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยคาดไว้ที่ 1.4 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนธันวาคม