ข่าวที่น่าสนใจ
ใครสั่งปฏิบัติการหักเขี้ยวเสือ
เริ่มที่ รุ่งเรือง ปรีชากุล คอลัมนิสต์ชื่อดังหนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ เปิดประเด็นว่า “สถานการณ์ สร้างวีรบุรุษ” สำนวนนี้ น่าจะจำกัดความได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน “ยุทธจักรสีกากี” ณ เวลานี้ เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินับวันมีแต่จะบานปลายขยายวงมากยิ่งขึ้น หากไม่ยุติปัญหาก็อาจเป็นไปได้ว่า ตำรวจ“น้ำดี”ที่ยังเหลืออยู่ในองค์กรผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แห่งนี้ ก็จะมีเพียงแค่อนุสาวรีย์รูปปั้นตำรวจอุ้มประชาชน และมีหนูน้อยเกาะขาตำรวจ พร้อมกับตัวหนังสือที่เขียนไว้ข้างล่างว่า “อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน”เท่านั้น
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะปัญหา“เงินสีเทา”อันเป็น“ส่วยยุคดิจิทัล”จากเว็บพนันออนไลน์ เรียกว่า“ยิ่งสาวก็ยิ่งเละ”ทั้งสองฝ่าย ดังที่กล่าวไว้ตอนต้นว่า“สถานการณ์ สร้างวีรบุรุษ” ทำให้นายเศรษฐา ดูสุกสกาวแวววามเป็นนายกรัฐมนตรีที่สมกับบทบาทและตำแหน่งหน้าที่ขึ้นมาทันที และถึงแม้งานนี้จะมีคนเชื่อว่า “ทักษิณคิด เศรษฐาเป็นคนเซ็นคำสั่งย้าย”ก็ตาม เนื่องจากทักษิณเป็นนายตำรวจเก่า และเคยคุมบังเหียนตำรวจมาก่อนสมัยครองอำนาจเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังเคยใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีย้าย พล.ต.อ. สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ในขณะนั้น ให้ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้วในปี 2547
ไม่ว่าจะ บิ๊กต่อ หรือ บิ๊กโจ๊ก ถูกย้ายข้ามฟากให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเปรียบเสมือน “สุสานคนเป็น” โอกาสที่จะได้กลับไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งคงปิดประตูตาย ตัวอย่างในอดีตมีให้เห็น ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 5 คน เมื่อถูกย้ายเข้าสุสานคนเป็นแล้วอยู่ยาวจนเกษียณราชการ นั่นก็คือ พล.ต.อ. สันต์ ศรุตานนท์ , พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ , พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส , พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปก็คือ บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นั่นเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน
สะกิด “นายกฯ” ตัดสินใจผิดพลาดใช้อำนาจล้วงลูกกรมตำรวจ
ขณะที่ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองผู้บังคับการจเรตำรวจ ในฐานะเลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องการที่นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งดังกล่าวทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เสียหาย และทำให้สังคมมองว่าไปทะเลาะกับลูกน้อง แทนที่นายกรัฐมนตรีจะส่งเสริมให้ผู้รักษากฎหมายได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ กวาดล้างผู้กระทำความผิดให้หมด แต่การกระทำเช่นนี้ทำให้ผู้รักษากฎหมายมีความรู้สึกไม่มั่นใจในการทำหน้าที่
ส่วนคดีที่มีการพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น ย่อมมีผลต่อการขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างแน่นอน เพราะเป็นคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติตำรวจ จะต้องสั่งให้พักราชการ หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน และ การที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าให้ส่งเรื่องไปที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ทั้งหมด ในทางกฎหมายทำไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่ใช่ใครสั่งให้ทำก็ทำ เพราะฉะนั้นจะต้องเข้าใจถึงกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมาสั่งแบบทหาร หรือสั่งแบบใช้อำนาจ
ทุกวันนี้ทีมพนักงานสอบสวนที่เคยสอบสวนคดีนี้จะรู้สึกอย่างไร หัวหน้าใหญ่ไปนั่งตบยุงอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ทั้งคนเป็นผู้รักษากฎหมาย กับคนกระทำผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อระบบบริหารราชการแผ่นดิน ทำให้ข้าราชการที่มีหน้าที่ในการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาดูแลหน่วยงานต่างๆ ไม่กล้าใช้อำนาจ คำกล่าวของ พ.ต.อ.วิรุตม์ เหมือนสะกิดเตือน นายกรัฐนตรี ตัดสินใจผิดพลาดในการใช้อำนาจล้วงลูกกรมตำรวจใช่หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดู LIVE รายการ
