ซัดดึงเกมยุบ “ก้าวไกล” จี้ “ศาลรธน.- กกต. – ป.ป.ช.” รีบทำงานให้ไวอย่าปล่อยเชื้อร้ายระบาดกัดกร่อนประเทศ

ทั้งนี้ได้ยินข่าวลือมาว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.พยายามจะอุ้มพรรคก้าวไกล ผมเองก็พยายามจะไม่เชื่อ แต่ได้ยินข่าวมาจากวงในหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง หรือ หลักสูตร พตส.หลักสูตรของ กกต.เป็น สส.พรรคก้าวไกล เองมาบอกว่ามีคนใน กกต.แฉว่า พรรคก้าวไกลจะไม่โดนยุบ แต่ส่วนตัว เชื่อว่า แม้จะมีกระบวนดึงเกมการจะไม่ยุบพรรค แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งมาแล้ว แต่มีกระบวนการจะดึงไม่ให้ กกต.ยุบพรรคก้าวไกลในระยะเวลาช่วงนี้ อย่างที่ผมพูดเอกสารที่ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่มีเอกสารบางตัวที่ตกหล่นก็คือคำร้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้ยื่นคำร้อง ผมไม่คิดว่า กกต.จะพลาดเรื่องแบบนี้ นี่คือการประวิงเวลาอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่ ซึ่งสอดรับจากข้อมูลที่ได้มาจากคนวงใน

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วยกองเชียร์พรรคก้าวไกล ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เอาผิด กับ กกต. ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157  โดยอ้างว่า พรรคก้าวไกลส่งนโยบายก่อนการหาเสียงให้ทางกกต. ได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ทางกกต. กับเพิกเฉยและละเลยในการปฎิบัติ ดูแลควบคุม นโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งถ้าในการหาเสียงของพรรคก้าวไกลในนโยบายมาตรา 112 ผิดกฎหมาย กกต. ก็ควรตรวจสอบตั้งแต่แรก จนทำให้ พรรคก้าวไกลจบเห่คดีล้มล้างการปกครองในเร็ว ๆ นี้ จึงอาจเป็นไปได้ว่า กกต.จึงออกอาการกล้า ๆ กลัว ๆ

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตอนนี้บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย คำสั่ง หรือ คำพิพากษาศาลรัฐธรรมูญไม่เป็นคำพิพากษา เพราะคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญนั้นผูกพันทุกองค์กร ฉะนั้น กกต.ช้าไม่ได้ต้องรีบส่ง แต่นี่ดึงเวลามานานเกือบ 2 เดือน ขนาด กกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญทำไปแล้ว แต่ท่านก็ยังลืมส่งเอกสารสำคัญ จะให้คิดเห็นอย่างไร นอกจากนี้ยังมีประเด็นการยื่นเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ฟันผิดจริยธรรม เนื่องจากมี ส.ส.พรรคก้าวไกล 44 คน ลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงขอถามว่า กรรมการ ปปช.ท่านกำลังทำอะไรกันอยู่ ได้เรียก ส.ส.ทั้ง 44 คนมาชี้แจงแล้วหรือยังและคำชี้แจงฟังขึ้นหรือไม่