“ตำรวจ ปอศ.” ลุยทลายแก๊งเงินกู้ดอกโหด ข่มขู่-ทำร้ายลูกหนี้ รวบแล้ว 5 ราย

"ตำรวจ ปอศ." เปิดปฏิบัติการลุยค้น "เมืองกรุงฯ - อยุธยาฯ" ทลายแก๊งเงินกู้ดอกโหด ข่มขู่-ทำร้ายลูกหนี้ รวบแล้ว 5 ราย

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการ ปูพรมปราบปรามเงินกู้นอกระบบ รวบผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 3 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย รายละเอียดมีดังนี้

 

 

 

 

การตรวจค้นจับกุมจุดที่ 1 เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.10 น. ได้จับกุม นายชินภพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี บริเวณห้องพัก แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพ โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนายชินภพฯ ให้การว่ารับปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับลูกหนี้ทั่วไปในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยแบบดอกลอย คือให้ลูกหนี้ชำระเงินต้นไปเรื่อยๆ จนกว่าลูกหนี้จะมีเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยมาชำระในคราวเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบพบว่านายชินภพฯ มีการรับจำนำรถจักรยานยนต์ แล้วนำไปจอดไว้บริเวณหน้าห้องพัก กว่า 10 คัน อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆ หรือไม่

 

 

 

 

การตรวจค้นจุดที่ 2 บริเวณบ้านพักย่านนวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ จับกุมแก๊งดอกเบี้ยโหด โปรยใบปลิวเกลื่อนเมือง สร้างความเดือนร้อนต่อประชาชน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ
1. นายพิเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
2. นายธีรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี

มีพฤติการณ์ ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ร้อยละ 40 ต่อ 28 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 520 ต่อปี โดยหากลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ตรงกำหนด กลุ่มเจ้าหนี้จะมีพฤติการณ์ทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย

 

 

 

 

โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”

การตรวจค้นจุดที่ 3 ต.ศาลาลอย อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จับกุมนายทุนเงินกู้ปล่อยกู้ดอกเบี้ยนอกระบบขาโหด 2 ราย ทำร้ายลูกหนี้จนซี่โครงหัก ได้แก่
1. นายฉัตรมงคล (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี
2. นางน้ำฝน (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี

ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด, ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น”

ผลการตรวจค้นจับกุมทั้ง 3 จุด พบเงินหมุนเวียน และทรัพย์ที่ตรวจยึดเพื่อตรวจสอบ จำนวน 8 รายการ รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น