“ก้าวไกล” ได้ร่างทรงใหม่ พรรคสีน้ำเงินได้ “ไชยชนก” ผงาดแม่ทัพใหม่ ขุนศึก “รทสช.” ปลุกพลังยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน

"ก้าวไกล"ได้ร่างทรงใหม่ - พรรคสีน้ำเงินได้ "ไชยชนก" ผงาดแม่ทัพใหม่ - ขุนศึก "รทสช." ปลุกพลังยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน

TOP News แม้ผลสำรวจ “นิด้าโพล” ล่าสุดประชาชนจะให้คะแนนอยากสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด  คือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และพรรคการเมืองที่อยากสนับสนุนมากที่สุดคือ พรรคก้าวไกลท่ามกลางมรสุมทางการเมืองที่กำลังจะถูกยุบพรรคในไม่ช้าก็ตามทีล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล  ว่า ในการประชุมพรรคก้าวไกลแกนนำพรรคก้าวไกล และ ส.ส.เข้าประชุมอย่างพร้อมหน้า ประเด็นหารือสำคัญ คือ การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตาม มาตรา 152 ที่เน้นอภิปรายครอบคลุมทุกประเด็น ทั้งนี้ ในการประชุม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าเข้าร่วมด้วย พร้อมกับกล่าวว่า “ยุบพรรคก้าวไกลค่อนข้างแน่นอน ขอให้ไปทำงานร่วมกับพรรคใหม่ที่รองรับไว้ และให้กำลังใจกรรมการบริหารพรรค ขอให้ช่วยทำงานต่อไปเพื่อน้อง ส.ส.ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ชื่อ พรรคก้าวใหม่ น่าจะถูกนำไปตั้งเป็นพรรคร่างทรงใหม่ของพรรคก้าวไกล

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พรรคสีน้ำเงินได้ “ไชยชนก” ผงาดแม่ทัพใหม่ 

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการปรับโครงสร้างพรรคใหม่โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ยังคงสถานะเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนรองหัวหน้าพรรค 3 คน ได้แก่ สุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล , ภราดร ปริศนานันทกุล และ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ แต่ตำแหน่งที่จับตามองมากที่สุดนั้นคือ เลขาธิการพรรค คือ ไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ ลูกชาย นายเนวิน ชิดชอบ

ขุนศึก “รทสช.” ปลุกพลังยึดมั่นอุดมการณ์ต่อสถาบัน

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ พรรครวมไทยสร้างชาติได้จัดกิจกรรม “รวมใจ…รวมไทยสร้างชาติ” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า การตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ มีคำปรามาสมากมาย ว่า จะได้ ส.ส.สักกี่คน แต่ปรากฏว่า การเลือกตั้งครั้งแรก มี ส.ส.ถึง 36 คน มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทยในการตั้งพรรคครั้งแรก และที่สำคัญ ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนทั่วประเทศเกือบ 5 ล้านเสียง ถ้าจะทำให้พรรคโตต้องมีสมาชิกที่เข้มแข็ง ต้องขอขอบคุณสมาชิกทุกท่าน ที่ยังมีจุดยืนเหนียวแน่นกับพรรครวมไทยสร้างชาติ

ทั้งนี้ การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 มีนโยบายสำคัญ คือ การแก้กฎหมาย ม.112 แต่พรรครวมไทยสร้างชาติเคยเตือนอย่าแตะต้องให้ถอยเรื่อง ม.112 ตอนตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประกาศชัดเจนว่า ถ้าไม่ถอยเรื่อง ม.112 เราจะไม่ร่วมรัฐบาลด้วย รวมถึงต้องไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 ต้องไม่แก้เรื่องการปราบปรามการทุจริต ซึ่งก็ทำได้สำเร็จแม้พรรครวมไทยสร้างชาติจะมี ส.ส. 36 ที่นั่ง ก็สามารถสร้างหลักประกันให้สถาบันหลักของชาติให้คงอยู่ต่อไปได้

นายเอกนัฏ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ดูแล 4 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงการคลัง ได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ทำงานเพียงในกระทรวงเท่านั้น แต่ในสภาก็ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ

“ประเทศไทยวันนี้ อยู่ในจุดเสี่ยงที่มีความล่อแหลมมาก จึงมีความจำเป็นต้องมีพรรคที่มีจุดยืนที่มั่นคงต่อสถาบันหลักของประเทศ พรรคยอมรับความแตกต่างและความหลากหลาย เช่น ยกมือสนับสนุน พ.ร.บ.ความหลากหลายทางเพศ เราไม่ติดยึดว่าเป็นอนุรักษ์แบบเก่า แต่เรารับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่อยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงของพรรคไม่เน้นการเล่นละคร แต่เราพูดและทำจริง พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังเดินหน้ารับสมัครสมาชิกพรรค ขยายสาขาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อเดินหน้าสร้างประเทศชาติ เพราะภารกิจยังไม่จบสิ้นหวังว่าทุกคนจะให้การสนับสนุน ภารกิจสานต่ออุดมการณ์ และจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป” เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น