“ธรรมนัส” นำทีมแถลงคืบหน้าปราบหมูเถื่อน สั่งลุยเต็มที่ ประกาศกร้าวหากใครเอี่ยว พร้อมดําเนินคดีทั้งหมด – Top News รายงาน
วันที่ 25 มี.ค. รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, พันเอกรวิรักษ์ สัตตบุสย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช, นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง, นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมแถลงข่าวประกาศนโยบายทำสงครามสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมายส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและเกษตรของประเทศ
ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ตั้งแต่ลงพื้นที่ ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบว่ามีการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนหมูเถื่อนมากับสินค้าประมง พบความผิดมากกว่า 220 คดี จากการปลอมแปลงเอกสารขออนุญาตนำเข้าสินค้าประมง แต่กลับนำสินค้าประเภทเนื้อหมู จำนวน 1,800,000 กิโลกรัม เนื้อวัว 4,000,000 กิโลกรัม สร้างมูลค่าความเสียหาย 1400 ล้านบาท ต่อภาคการเกษตร ทางกระทรวงเกษตรได้ไปยื่นดำเนินคดีกับบริษัทนำเข้า ซึ่งพบว่ามีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารเพิ่มขึ้นสองเท่า มูลค่าความเสียหายเกือบ 3000 ล้านบาท
อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการนำเข้าส่งออกสินค้าประมงผิดกฎหมาย กรมประมง มีทั้งนักกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญด้านเอกสาร และผู้เชี่ยวชาญปศุสัตว์ เราได้แจ้งความที่กรมสอบสวนกลางกับ 3 บริษัทผู้นำเข้า คือ บริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริบูรณ์ เทรดดิ้ง พบความผิดปกติว่า บริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด ใช้ใบรับรองสุขอนามัยสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากประเทศบราซิล มาปลอมแปลงข้อมูลให้เป็นใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำ ยื่นขอตรวจที่ด่านชลบุรี เมื่อตรวจสอบไปยังต้นทางได้รับการยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอม กรมประมงได้แจ้งความต่อตำรวจสอบสวนกลางให้ดำเนินคดี 4 ข้อกล่าวหา คือ
- ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารมาตรา 264
- ความผิดฐานใช้เอกสารปลอมมาตรา 268
- ความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่มาตรา 137
- พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14
จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว นำข้อมูลพยานหลักฐานข้อเท็จจริงมาชี้แจงกับพนักงานสอบสวน เพื่อต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม