วันที่ 25 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสผ่านไปทางถนนสาย อ.รัตนบุรี – อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ บริเวณริมถนนติดกับที่ทำการป่าไม้ หน่วย สร.5 บ้านสำโรง – หนองกา อ.รัตนบุรี ซึ่งมีแผงร้านค้าของป่าที่ตั้งเรียงรายกันเป็นจำนวนมากอยู่ริมถนน จึงได้แวะลงไปดู พบว่าส่วนใหญ่จะมีรังผึ้งและรังตัวอ่อนของผึ้งหลวง พร้อมกับมีผลไม้ป่าตามฤดูกาลวางจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วงนี้ก็จะเป็นพวกลูกหมากยาง ที่มีรสเปรี้ยวอมหวานสะใจ แก้ง่วงได้เป็นอย่างดี
ข่าวที่น่าสนใจ
จากการสอบถาม นางสาวนัดธิตา จะยันรัมย์ อายุ 36 ปี แม่ค้าชาวบ้านสำโรง อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ที่จำหน่ายรังผึ้งที่นี่มานานกว่า 10 ปี ได้เปิดเผยว่า ช่วงนี้จะเป็นฤดูกาลที่มีรังผึ้งป่ามาก และน้ำผึ้งจะมีความเข้มข้นและมีรสหอมหวานมากกว่าฤดูกาลอื่นๆ จึงเป็นที่นิยมของลูกค้ามาก ซึ่งที่นี่จะคั้นให้ลูกค้าสดๆจากรังเลย ในราคาขวดเล็ก 120 บาท ขนาดขวดแบน ราคา 350 บาท และขนาดขวดกลม ราคาขวดละ 600 บาท และหากต้องการให้ส่งให้ทางขนส่ง ก็จะบวกค่าส่งอีก 100 บาท โดยต้องโอนเงินชำระสินค้าก่อนจึงจะส่งให้ และนอกจากนี้ก็ยังมีขี้ผึ้งแท้ขายด้วยในราคากิโลกรัมละ 300 บาท โดยสามารถโทรฯสั่งได้ที่ “น้องกล้วยน้ำผึ้งป่า” บ้านสำโรง ม.4 โทรฯ 0626083769 และ 0935723179 หรือทางเฟสบุ๊ก “น้องกล้วย น้ำผึ้งป่า” ก็ได้
สำหรับการออกหาผึ้งป่า นายสมพร จะยันรัมย์ อายุ 44 ชาวบ้านสำโรง ได้เล่าให้ฟังว่า ต้องไปสำรวจดูก่อนว่า ในป่าบริเวณไหนมีผึ้งลงบ้าง ซึ่งถ้าเขาจะลงก็จะลงทำรังกันเป็นเหมือนหมู่บ้านเลยทีเดียว แต่ถ้าบริเวณไหนเขาไม่ลง บริเวณนั้นก็จะไม่มีรังผึ้งเลยสักรัง ซึ่งผึ้งส่วนใหญ่ก็จะลงทำรังกันบริเวณแถวๆที่มีสายน้ำไหลผ่าน ตามแม่น้ำมูลที่อยู่ไม่ไกลจากนี่ เพราะผึ้งต้องอาศัยน้ำในการดำรงชีวิตและหาอาหารจากเกสรดอกไม้ ตามป่าทาม และบริเวณป่าดงหินล้มที่อยู่ในพื้นที่ของป่าไม้ หน่วย สร.5 ที่อยู่บริเวณด้านหลังร้านที่จำหน่ายรังผึ้งนี้ ซึ่งในช่วงเดือน 4 เดือน 5 ก็จะมีผึ้งมาทำรังเยอะที่สุด และก็จะมีน้ำผึ้งเต็มทุกรังอีกด้วย อีกทั้งน้ำผึ้งช่วงนี้ก็จะมีความเข้มข้นมาก และมีรสชาติหอมหวาน จึงเป็นที่นิยมของลูกค้าเป็นอย่างมาก
และนอกจากน้ำผึ้งป่าแล้ว ก็ยังมีอีกอย่าง ที่เป็นที่ยอดนิยมของคนชอบอาหารป่า นั่นก็คือ ตัวอ่อนของผึ้งหลวง ซึ่ง นางบุญค้ำ เค้าดี อายุ 38 แม่ค้ารังผึ้งป่า ได้เปิดเผยว่า สำหรับรังผึ้งหลวง ต้องไปหามาจากป่าใหญ่ โดยจะพบอยู่บนต้นไม้สูง และมีรังขนาดใหญ่ เท่าที่พบใหญ่สุดก็ประมาณเกือบ 2 วา ซึ่งก็จะมีมากแถวป่าในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งหายากและกว่าจะได้มากก็ลำบาก จึงมีราคาค่อนข้างสูง ขายกันอยู่ที่กิโลละ 500 บาท เป็นที่นิยมของผู้ที่ชอบทานเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่าเป็นอาหารบำรุงร่างกาย เพราะนอกจากจะทานสด หรือจะนำมาจิ้มกับน้ำผึ้งทานก็อร่อย ทานได้ทั้งรัง หรือจะนำเอาไปโรยเกลือแล้วเอาไปย่างไฟอ่อนๆก็ทานอร่อยไปอีกแบบ และก็ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารจานเด็ดได้อีกหลายแบบด้วย ไม่ว่าจะเป็นลาบตัวอ่อนผึ้งหลวง ซึ่งจะมีรสชาติแซบสะใจ ถูกใจสายอาหารป่า ที่ 1 ปีจะมีให้ทานเพียงครั้งเดียว ในช่วงฤดูแล้งนี้เท่านั้น
และสุดท้ายสำหรับของป่าในฤดูกาลนี้ นอกจากรังผึ้งแล้ว ก็จะมีผลไม้ป่าชนิดหนึ่งที่ออกผลชุกชุมด้วย นั่นก็คือ “ลูกยาง” ที่มีรสชาติเปรียวอมหวานสะใจ ช่วยให้หายง่วงสำหรับนักเดินทางได้เป็นอย่างดี ในราคาพวงละ 50 บาท ซึ่งชวนให้น่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งหากท่านใดได้เดินทางผ่านมาเส้นทางนี้ ก็ลองแวะซื้อนำกลับไปทานกันดูนะครับ ซึ่งผลผลิตจากธรรมชาติของป่าที่นี่ เขารับประกันความ สด ใหม่ ไร้สารเคมี ที่ขายกันมานานกว่า 10 ปี เป็นเครื่องรับประกัน มีลูกค้าประจำแวะเวียนกันมาซื้อไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งแม่ค้าส่วนใหญ่ ก็จะมาเปิดแผงขายกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปจนถึง 1 ทุ่ม ทุกวันไม่มีวันหยุด.
ภาพ/ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
