นักศึกษาป.เอกจากจีน และอาจารย์มหาวิทยาลัย ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐฟลอริดา หลังกฎหมายใหม่สั่งห้ามไม่ให้นักศึกษาจีนช่วยทำงานวิจัย เพื่อกีดกันการศึกษาวิจัยในสหรัฐ
นักศึกษาปริญญาเอกชาวจีน 2 คน ที่กำลังศึกษาในมหาวิยาลัยนานาชาติฟลอริดา (Florida International University) และศาสตราจารย์ชาวจีนคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยฟลอริดา (The University of Florida) ได้ร่วมกันฟ้องเจ้าหน้าที่การศึกษา ของรัฐฟลอริดาเมื่อวันจันทร์ เพื่อพยายามหยุดการบังคับใช้กฎหมายของรัฐฟลอริดาฉบับใหม่ ซึ่งจำกัดการแลกเปลี่ยนงานวิจัย ระหว่างมหาวิทยาลัยของรัฐ กับนักวิชาการจาก 7 ประเทศต้องห้ามได้แก่ จีน รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ คิวบา ซีเรีย และเวเนซุเอลา
สภานิติบัญญัติฟลอริดา ซึ่งควบคุมโดยพรรคริพับลิกัน ได้ผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว โดยมีนาย รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐลงนาม มีจุดประสงค์ เพื่อหยุดยั้งรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนและประเทศต้องห้าม ไม่ให้มีอิทธิพลต่อสถาบันการศึกษาของรัฐฟลอริดา
ในคำฟ้องนักศึกษาทั้งสองระบุว่า พวกเขาซึ่งขณะนี้ต้องดร็อปเรียน ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าห้องปฏิบัติการงานวิจัย ที่กำลังทำอยู่ ในขณะที่อาจารย์ที่ร่วมฟ้องกล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวได้ขัดขวาง ไม่ให้เขาสรรหานักศึกษาปริญญาเอก ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด มาช่วยเหลือในงานวิจัยของตนเอง ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการตีพิมพ์และโครงการวิจัยของเขาช้าลง พร้อมย้ำว่า พวกเขาไม่ใช่สมาชิกของรัฐบาลจีนหรือพรรคคอมมิวนิสต์ อีกทั้งกฎหมายดังกล่าวถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และยังถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจของรัฐบาลกลาง ซึ่งมีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว ในเรื่องการออกกฎหมายเกี่ยวกับ การเข้าเมือง ความมั่นคง และการต่างประเทศ
รวมถึงระบุในคำฟ้องว่า กฎหมายนี้มีความคลุมเครือ ซึ่งให้อำนาจและสนับสนุนการบังคับใช้ตามอำเภอใจ และเลือกปฏิบัติทั่วฟลอริดา และกำลังส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อบุคคลจากประเทศจีนและเชื้อสายเอเชีย ที่กำลังมองหางานทางวิชาการในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยของรัฐในฟลอริดา เนื่องจากกฎหมายของฟลอริดาในขณะนี้สันนิษฐานว่า พวกเขาเป็นอันตรายต่อสหรัฐ
ด้านสำนักงานผู้ว่าการรัฐและกระทรวงศึกษาธิการของรัฐฟลอริดา ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด